ระยอง - อีกแล้ว! ช้างป่าทำร้ายคนกรีดยางเสียชีวิต คราวนี้ที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง กระทืบคนงานวัย 40 ปี ร่างแหลกเหลว ชาวบ้านเผยที่ผ่านมาเคยไล่กระทืบคนจนแขนหัก เหยียบ จยย.พังยับ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันออกนอกพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ผกามาศ ร้อยเวร สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายคนกรีดยางจนเสียชีวิตภายในสวนยางพารา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง จึงประสาน นายอิทธิพงศ์ จักษ์ตรีมงคล นายอำเภอวังจันทร์ และนายนิติพัฒน์ ยุทธเจริญกิจ นายก อบต.ป่ายุบใน
รวมถึงนายธนกฤต ยุทธเจริญกิจ กำนัน ต.ป่ายุบใน และหน่วยกู้ชีพกู้ภัย อบต.ป่ายุบใน กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูระยอง ร่วมเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
พบที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราที่อยู่ห่างจากถนนสายบ้านบึง-แกลง ประมาณ 300 เมตร โดยมีร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กับพื้น บริเวณสะโพกถูกเหยียบจนยุบเห็นเป็นรอยเท้าช้างอย่างชัดเจน และยังมีเศษชิ้นเนื้อกระจายเกลื่อนพื้นจนเป็นที่อนาถใจแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บริเวณรอบศพยังพบร่องรอยเท้าช้างเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายานเพิ่มเติมว่าในพื้นที่ ม.2 ต.ป่ายุบใน ยังมีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บแขนหัก รถจักรยานยนต์ถูกกระทืบจนพังเสียหาย และคาดว่าน่าจะเป็นช้างป่าโขลงเดียวกันกับที่ทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต
โดยช้างโขลงดังกล่าวมีจำนวน 3 ตัว และมักจะเดินหากินในพื้นที่ ต.ท่าเสาร์ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร และที่ผ่านมา ยังเคยไล่ทำร้ายชาวบ้านจนหนีกระเจิง และยังใช้งาแทงสุนัขติดคางาก่อนจะเดินหายไปตามแนวเขตป่า
นางวาสนา มารดาของผู้เสียชีวิตเผยทั้งน้ำตาว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชื่อ น.ส.สุพรรษา สมคิด อายุ 40 ปี ซึ่งช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาได้ออกไปกรีดยาง แต่ตนเองเห็นผิดสังเกตเนื่องจากถึงช่วงเช้าแล้วยังไม่กลับบ้านจึงออกตามหาที่สวนยาง แต่เมื่อมาถึง ก็ถึงกับช็อกเพราะเห็นร่างที่แหลกเหลวของลูกสาว
ส่วน นายธนกฤต กำนัน ต.ป่ายุบใน ได้กล่าวเตือนชาวบ้านให้ระวังช้างป่าที่มักเข้ามาหากินในพื้นที่ ซึ่งช้างที่ก่อเหตุเชื่อว่าเป็นโขลงช้างที่มักเข้ามาหากินในเส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ และมีอยู่ประมาณ 20 ตัว
และขณะนี้นายอำเภอวังจันทร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างลงพื้นที่ติดตามช้างที่ก่อเหตุเพื่อผลักดันให้พ้นหมู่บ้าน และเตรียมให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป