บุรีรัมย์ - หนุ่มวัย 27 ชาวบุรีรัมย์อดีตเจ้าของโรงกลึงสุดช้ำ โรงงานไม่ผลิตนอตสเตนเลสให้ตามออเดอร์ที่สั่งแถมไม่ยอมคืนเงิน ทำให้ไม่มีของส่งลูกค้าตามกำหนดจนธุรกิจเกิดปัญหา ทวงถามเงินคืนจากโรงงานหลายครั้งแต่บ่ายเบี่ยง ต้องให้แม่กู้ ธ.ก.ส.มาช่วยประคองธุรกิจแต่สุดท้ายต้องปิดกิจการเป็นหนี้เฉียดล้าน ปัจจุบันต้องรับจ้างวันละ 300 หาเลี้ยง 3 ลูกน้อย วอนเจ้าของโรงงานเห็นใจคืนเงินส่วนที่เหลือให้
วันนี้ (13 ธ.ค.) นายธีรวัฒน์ สมโสม หรือแบงค์ อายุ 27 ปี อดีตเจ้าของโรงกลึงแห่งหนึ่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐานออกมาร้องขอความเห็นใจจากเจ้าของโรงงานขนาดใหญ่ที่ จ.สมุทรสาคร หลังจากสั่งปั๊มหรือผลิตนอตสเตนเลสเพื่อนำมาแปรรูปที่โรงกลึงเป็นอะไหล่สำหรับตกแต่งรถจักรยานยนต์ ส่งขายให้ร้านค้าส่งและโพสต์ขายออนไลน์ ซึ่งมีลูกค้าอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศ
นายธีรวัฒน์บอกว่า ได้สั่งผลิตนอตครั้งแรกกับโรงงานดังกล่าวก็ได้รับสินค้าครบตามกำหนดไม่มีปัญหาอะไร แต่พอสั่งครั้งที่สอง ซึ่งวางเงินมัดจำไป 200,000 บาท แต่ได้สินค้ามาแค่บางส่วนหากตีเป็นราคาก็น่าจะประมาณ 4 หมื่นบาท ทั้งยังส่งให้ล่าช้ากว่ากำหนดเป็นเดือน ทำให้ตนถูกลูกค้าที่สั่งสินค้าเอาไว้ต่อว่าและขอเงินคืนหลายราย จนทำให้ลูกค้าเริ่มขาดความเชื่อมั่น
ตนพยายามโทรศัพท์ไปสอบถามกับทางโรงงานเพื่อให้เร่งส่งสินค้าที่เหลือให้หลายครั้ง แต่ทางโรงงานกลับอ้างว่าไม่มีวัตถุดิบ จึงขอเงินส่วนที่เหลือคืนเพื่อจะได้นำเงินไปสั่งโรงงานอื่นผลิตส่งให้ลูกค้าที่สั่งเอาไว้ แต่ทางโรงงานที่รับออเดอร์ไว้กลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าถ้าจะขอเงินคืนต้องหักค่าเครื่องพิมพ์และค่าใช้จ่ายต่างๆ ก่อนแล้วถึงจะคืนให้ แต่ก็ไม่ยอมคืนสักที จึงตัดสินใจเดินทางไปสอบถามที่โรงงานด้วยตัวเองก็ยังบ่ายเบี่ยงอีก
กระทั่งต่อมาทางโรงงานได้จ่ายเป็นเช็คมาให้วงเงิน 38,992 บาท พอนำไปขึ้นเงินกลับพบว่าเช็คเด้ง จึงได้ไปแจ้งความกรณีเช็คเด้งเอาไว้ ขณะเดียวกันก็ขอให้แม่ช่วยกู้เงิน ธ.ก.ส. 100,000 บาท เพื่อไปหมุนเวียนในธุรกิจให้สามารถดำเนินต่อไปได้ แต่จากปัญหาที่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจสะดุดไม่สามารถประคับประคองต่อได้ สุดท้ายต้องปิดกิจการ แถมยังมีหนี้สินอีกเกือบล้านบาท
ปัจจุบันต้องทำงานเป็นลูกจ้างได้ค่าแรงงานวันละ 300 บาท เพราะต้องดูแลภรรยา และลูกน้อยอีก 3 คน อายุ 1 ขวบ 2 ขวบ และ 5 ขวบ จึงอยากจะขอความเห็นใจจากทางโรงงานให้คืนเงินส่วนที่เหลือตามยอดสุทธิที่ทางโรงงานเขียนเอาไว้ 128,840 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่ยังไม่ได้ผลิตสินค้าให้ตามที่สั่ง
ด้าน น.ส.ธัญดา เดชพิพัฒน์พงศ์ อายุ 52 ปี แม่นายแบงค์อดีตเจ้าของโรงกลึง บอกว่า ก่อนหน้านี้ลูกทำธุรกิจขายนอตสเตนเลสอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อปี 2564 ลูกชายตัดสินใจกลับมาเปิดโรงกลึงเพื่อแปรรูปนอตสเตนเลสขาย ก็เปิดได้เกือบปีแต่มาเจอปัญหาที่ทางโรงงานผลิตนอตไม่ส่งให้ตามออเดอร์ ทวงเงินคืนส่วนที่เหลือก็ไม่ยอมจ่ายจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ธุรกิจลูกชายล่มจากที่เคยเป็นเจ้าของโรงกลึงต้องมาทำงานรับจ้าง แถมยังเป็นหนี้อีกเกือบล้านบาท
ส่วนตนเองก็เป็นหนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้ยืมมาให้ลูกไปหมุนธุรกิจช่วงที่มีปัญหา ตอนนี้ถูกทางธนาคารส่งหนังสือมาทวงหนี้เดือดร้อนมาก อยากขอความเห็นใจจากเจ้าของโรงงานให้คืนเงินส่วนที่เหลือให้ลูกชายด้วย เพื่อที่ตนจะได้นำไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. เพราะตอนนี้ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ลำพังหากินอยู่แต่ละวันก็ลำบาก
