เชียงใหม่ - ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่ประชุมพร้อมสั่งยกระดับแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตามแผนจัดการที่ดินและป่าไม้ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
วันนี้ (1 ธ.ค. 65) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการประชุมเร่งรัดและมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและการทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมมอบแผนการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ระดับพื้นที่ให้แก่ 7 ตำบลในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, นายอำเภอแม่แจ่ม ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยทำกินของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของ ทส. สำหรับที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยจะพิจารณาการใช้ประโยชน์และออกหลักฐานการอนุญาต ตามแนวทางมาตรการบริหารจัดการที่ดินที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงพี่น้องชาวอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากอำเภอแม่แจ่มเป็นพื้นที่พิเศษที่อยู่ต้นน้ำที่สำคัญของประเทศไทย มีพื้นที่ป่าอยู่กว่าเกือบ 400,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1-5 ซึ่งรัฐบาลต้องการจัดพื้นที่ คทช.ให้แก่พี่น้องชาวแม่แจ่มที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน
โดยก่อนหน้านี้ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 3, 4 และ 5 จำนวน 196,965 ไร่ ได้รับการอนุญาตเรียบร้อยแล้ว แต่พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ดังนั้น จึงได้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 แห่ง เป็นแกนหลัก ดำเนินการร่วมกับกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสำรวจพื้นที่ โดยพบว่าหมู่บ้านที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติในอำเภอแม่แจ่ม จำนวน 104 หมู่บ้าน ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว 30 หมู่บ้าน ส่วนที่เหลืออีก 70 หมู่บ้านคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และเมื่อได้ข้อมูลการครอบครองที่ดินที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ในขั้นตอนต่อไปจะนำข้อมูลดังกล่าวไปจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ สำหรับการดำเนินงานในลำดับต่อไป ซึ่งกรมป่าไม้จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปส่งเสริมพัฒนาอาชีพ โดยการนำมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามแนวพระราชดำริ มาใช้ปฏิบัติในพื้นที่เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรม ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลให้ราษฎรมีอาชีพที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมดุล สามารถอยู่ร่วมกันกับป่าได้อย่างยั่งยืนสืบไป