สระแก้ว - จ.สระแก้ว จัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เนื่องในวันสถาปนาจังหวัดครบรอบปีที่ 29
วันนี้ (1 ธ.ค.) นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นางเยาวรัตน์ โพธิสัตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว และนายณัฎฐชัย นำพูนสุขสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รวมถึงข้าราชการ หัวหน้าส่วน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมในพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง จังหวัดสระแก้ว และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และศาลากลางจังหวัดสระแก้ว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาจังหวัดสระแก้ว
โดยที่มาของชื่อ สระแก้ว มาจากชื่อสระน้ำโบราณ 2 สระที่อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสระแก้ว ซึ่งในสมัยกรุงธนบุรีราวปี พ.ศ.2323 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกทัพไปตีกัมพูชา ได้แวะพักกองทัพที่สระน้ำทั้ง 2 แห่ง
และกองทัพได้อาศัยน้ำจากสระดังกล่าวและได้ขนานนามสระทั้ง 2 นี้ว่า สระแก้ว-สระขวัญ และยังเป็นสระน้ำที่ใช้น้ำในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เพราะถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์
โดยในอดีต สระแก้วมีฐานะเป็นตำบลขึ้นอยู่ในการปกครองของ อ.กบินทร์บุรี ซึ่งทางราชการได้แต่งตั้งให้เป็นด่านสำหรับตรวจคนและสินค้าเข้าออก มีข้าราชการตำแหน่งนายกอง ทำหน้าที่เป็นนายด่าน กระทั่งปี พ.ศ.2452 ทางราชการได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ชื่อว่ากิ่งอำเภอสระแก้ว ขึ้นต่อ อ.กบินทร์บุรี
ภายหลังได้ถูกยุบรวมกับ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2468 และเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2501 ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็นอำเภอชื่อว่า อ.สระแก้ว ขึ้นอยู่ในการปกครองของ จ.ปราจีนบุรี และวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2536 ได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัดลำดับที่ 74 ของประเทศไทย