ตาก - ทูตฯ พม่าตามดูแลแรงงานเหยื่อบัสคว่ำคาโค้ง 100 ศพกลางดอยรวก ตาย 3 เจ็บยกคัน 44 ราย..เผยประกันฯจ่ายผู้เสียชีวิตศพละล้านยกเว้นคนขับ พร้อมสิทธิตาม พ.ร.บ.บุคคลที่สาม เผยอุบัติเหตุดอยรวก-ถนนตาก-แม่สอด ยังเกิดซ้ำ แม้ขยายจาก 2 เป็น 4 เลน
วันนี้ (30 พ.ย. 65) Mr. Hia Myo Than ทูตแรงงานเมียนมา ประจำ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ-สอบถามสิทธิการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บตามระเบียบราชการไทย กรณีอุบัติเหตุรถบัสนำแรงงานชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตาม MOU ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลพม่า ผ่านชายแดนแม่สอด ไปส่งโรงงานใน จ.สงขลา เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบริเวณโค้ง 100 ศพ บนดอยรวก เส้นทางสายตาก-แม่สอด เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย รวมคนขับ บาดเจ็บ 44 ราย
นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกันในการ เข้าไปช่วยเหลือและเยียวยาผู้บาดเจ็บทั้งหมด
สำหรับการเยียวยานั้น พบว่าผู้ประกอบการรถบัสได้ทำประกันภาคสมัครใจกับบริษัทวิริยะประกันภัย จะจ่ายเงินเยียวยา ผู้โดยสาร ผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 ราย รายละ 1,000,000 บาท เยียวยาผู้บาดเจ็บตามอาการได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับที่เสียชีวิต ไม่ได้รับเงินเยียวยาเนื่องจากเป็นผู้กระทำความผิด
ในส่วนของเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ. จะจ่ายให้ผู้โดยสารที่เสียชีวิต เต็มอัตรา 500,000 บาท และเงินค่าทำศพให้แก่คนขับรถที่เสียชีวิต 35,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมดเบื้องต้น ในวงเงิน 80,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.ลิขิตพงศ์ ศรีนาราง ผกก.สภ.แม่ท้อ จ.ตาก ก็ได้นำคณะพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งหมดในฐานะผู้เสียหาย เพื่อหารายละเอียดเกี่ยวข้องในคดี แต่เบื้องต้นมีรายงานว่ารถบัสคันดังกล่าวได้บรรทุกแรงงานชาวเมียนมา พร้อมด้วยคนขับรวม 47 ชีวิต เดินทางมาจากชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กำลังจะเดินทางไปทำงานในโรงงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณดอยรวก หรือโค้ง 100 ศพ เป็นเส้นทางลงเขาคดโค้งลาดชัน และอันตรายเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง คนขับไม่ชำนาญทาง และใช้เบรกต่อเนื่องทำให้ลมเบรกหมด รถไหลลงดอยรวกด้วยความเร็วสูง ไม่สามารถบังคับได้ ทำให้รถเสียหลักชนแบริเออร์ฝั่งซ้ายขาลงเขา ก่อนที่จะพุ่งข้ามแบริเออร์กั้นกลางถนน ทะลุไปฝั่งขาขึ้นดอยรวก ตกลงไปในร่องน้ำและจอดตะแคงพิงภูเขา จนมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
สำหรับเส้นทางสายตาก-แม่สอด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เป็นเส้นทางที่คดโค้งลัดเลาะไปบนไหล่เขาตลอดระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร มีทางลาดลงเขาสูงชัน ในอดีตเคยเป็นถนน 2 ช่องจราจร แบบขยายไหล่ทาง กระทั่ง 24 มีนาคม 2557 เกิดอุบัติเหตุรถบัสที่นำคณะ อสม.อบต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ไปทัศนศึกษาที่ จ.อุบลราชธานี ประสบอุบัติเหตุพุ่งตกเหวดอยรวกลึก 100 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย บาดเจ็บประมาณ 30 ราย
ต่อมากรมทางหลวงได้จัดสรรงบประมาณขยายเป็น 4 ช่องจราจร โดยการระเบิดภูเขาเพื่อขยายถนน ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2559 มีการปรับความลาดชันและเสริมความแข็งแรงของทางโค้งในจุดอันตราย เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ แต่ก็ยังคงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
เช่น 30 มี.ค. 61 เกิดไฟไหม้รถบัสขนแรงงานต่างด้าวไปทำธุรกรรมที่ด่านพรมแดนแม่สอด จ.ตาก กลางดอยเส้นทางสายแม่สอด-ตาก มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหนีตายไม่ทัน ถูกไฟคลอกดับคาประตูรถ-ประตูฉุกเฉิน กองรวมกัน 20 ศพ, ทุบกระจก-กระโดดหนีตายออกมาได้ 27 ราย แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
9 เม.ย. 2561 เวลา 22.30 น. เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ 2 ชั้น ขนแรงงานหญิงเมียนมา 50 คน จาก อ.แม่สอด มุ่งหน้าไปฉะเชิงเทรา พลิกคว่ำ บนถนนแม่สอด-ตาก กม.68 ช่วงทางลงดอยรวก มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 30 ราย
เช้าวันรุ่งขึ้น (เวลา 10.30 น. วันที่ 10 เม.ย. 61) ขณะ จนท.กำลังตรวจสอบอุบัติเหตุ จู่ๆ ก็มีรถบัสโดยสารไม่ประจำทาง กลับจากส่งแรงงานเมียนมาที่ชายแดน อ.แม่สอด ตีรถเปล่าจะเข้ากรุงเทพฯ ด้วยความเร็วสูง เกิดเบรกแตกพุ่งชนรถตำรวจทางหลวงเสียหาย 1 คัน ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตากที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เสียชีวิต 1 ราย คือ น.ส.มานิดา ธัญกิจรุ่งโรจน์ อายุ 37 ปี และ ร.ต.อ.สัญญา พุ่มคนสิน ได้รับบาดเจ็บที่ขา รวมทั้งมีตำรวจบาดเจ็บเล็กน้อยอีกหลายนาย