ระยอง - เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรีสอร์ตแหลมแม่พิมพ์ จ.ระยอง หลังถูกชาวบ้านร้องสร้างแนวกันคลื่นรุกชายหาด ขณะเจ้าของรีสอร์ตอ้างมีเอกสารสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (25 พ.ย.) นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 พร้อมด้วย นายคเชนค์ แจ่มใส นายกเทศมนตรีตำบลสุนทรภู่ นายเศรษฐชัย อาภาขจร ปลัดอำเภอแกลง นายสกุล เขียนด้วง ผู้อำนวยการส่วนป่าชายเลน ว่าที่ ร.ต.วิษณุพงศ์ วิเชียรรัตนกุล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรทางทะเล และนายนกร ไกรพงษ์ กำนันตำบลกร่ำ ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองจังหวัดระยอง ได้ร่วมกันตรวจสอบริมชายหาดแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง
หลังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีเจ้าของรีสอร์ตชื่อดังสร้างแนวกันคลื่นริมชายหาดโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อไปถึงพบว่ามีรถโม่ปูน และช่างกำลังทำการเทปูนริมชายหาด ซึ่งเป็นการก่อสร้างพื้นปูนยาวประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดทำงานทันที และเชิญตัวเจ้าของรีสอร์ตให้มาชี้แจงถึงการกระทำดังกล่าว
ขณะที่ นายวิริศัลก์ โชติวีระนนท์ อายุ 78 ปี เจ้าของรีสอร์ตได้เดินทางเข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า ที่ดินที่บริเวณดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.และหนังสือคำคัดค้านโต้แย้งระหว่างเทศบาลสุนทรภู่กับตนเอง เรื่องข้อพิพาทที่ดินจากศาลปกครองระยอง
พร้อมยืนยันว่าดินผืนนี้มีโฉนดติดกับทะเลและได้ก่อสร้างซุ้มร้านอาหารมานานกว่า 30 ปีแล้ว กระทั่งเกิดพายุพัดคลื่นทะเลเซาะชายฝั่งบริเวณร้านจนเกิดการพังทลายของหน้าดิน ตนเองจึงได้ทำหนังสือขออนุญาตไปยังเทศบาลตำบลสุนทรภู่ เพื่อทำการก่อสร้างแนวกันคลื่น แต่เทศบาลไม่ได้อนุญาต จึงได้ยื่นร้องต่อศาลปกครองว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของตนเองและสามารถก่อสร้างได้ เนื่องจากไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ
ด้าน นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 เผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ที่มีการร้องเรียนพบว่าได้มีการก่อสร้างบุกรุกในพื้นที่สาธารณะริมทะเลจริง จึงสั่งให้เจ้าของระงับการก่อสร้างทั้งหมดไปก่อนเพื่อให้มีการตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง
และจะต้องรอให้เจ้าของที่ดินประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินเข้าทำการรังวัดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ส่วนบุคคล โดยจะให้เจ้าของที่ดินยื่นเรื่องคัดค้าน พร้อมนำหนังสือคัดค้านมาแสดงต่อเจ้าพนักงานภายใน 30 วัน
"เนื่องจากเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองเจ้าหน้าที่จึงต้องสั่งระงับการก่อสร้างไว้ก่อน เพื่อให้มีการตรวจสอบ และหากพบว่าไม่มีเอกสารยืนยันอย่างถูกต้องจะสั่งให้ติดป้ายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด พร้อมปรับพื้นที่ชายหาดให้กลับสู่สภาพเดิม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามขั้นกฎหมายต่อไป" ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 กล่าว
