นครสวรรค์ - ผู้การตำรวจเมืองปากน้ำโพนำ จนท.คลี่คดีมือมืดยิงถล่มบ้านเลขาฯ ผู้ช่วย รมต.คมนาคม..ชี้เป็นเหตุพยายามฆ่า-ใช้อาวุธปืน ตั้ง 3 ประเด็นสืบสวนทั้งเรื่องการเมือง-ขัดแย้งส่วนตัว-สร้างสถานการณ์
วันนี้ (25 พ.ย. 65) พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สภ.พยุหะคีรี และทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด ทีมสืบสวน สภ.พยุหะคีรี เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจาก ภูธรภาค 6 ได้ร่วมกันประชุมสรุปความคืบหน้า-วางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านพักของนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย อดีต ส.จ.คนดัง ซึ่งเป็นเลขาฯ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา
หลังการประชุมหารือกว่า 3 ชั่วโมง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ว่าคดีนี้เป็นเหตุพยายามฆ่า และการใช้อาวุธปืน ซึ่งหลังจากได้ลงพื้นที่และตรวจสอบข้อมูลจากนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย เลขาฯ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านบอกว่า ขณะเกิดเหตุนั้นมีเพียงคนงานที่ดูแลบ้านอยู่ ส่วนนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย และครอบครัวไม่ได้อยู่ที่บ้านและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย
จากการตรวจสอบบริเวณหลังบ้านที่คาดว่าเป็นจุดยิง พบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่จำนวน 5 ปลอก พร้อมหมอนรองกระสุน จึงสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมาแอบซุ่มอยู่ที่บริเวณข้างๆ บ้าน แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าคนร้ายต้องการจะยิงขู่ หรือประสงค์จะทำร้ายร่างกาย
แต่อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานทั้งจาก ภ.จว.นครสวรรค์ และภาค 6 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของนายทรงศักดิ์อีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะการตรวจสอบวิถีกระสุนว่ายิงมาจากด้านไหน ส่วนฝ่ายสืบสวนก็กำลังกระจายกำลังกันหาเบาะแส พร้อมกับไล่ตรวจภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ รวมถึงสืบหาข่าวกลุ่มคนร้ายที่มีพฤติกรรมมักใช้อาวุธปืนลูกซอง และชอบก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกัน นำประวัติมาเปรียบเทียบกับข้อมูลเหตุเกิดที่บ้านของนายทรงศักดิ์
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ก็พอจะมีเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว ซึ่งคดีนี้จะสามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
ส่วนประเด็นการก่อเหตุที่ตั้งไว้ขณะนี้มี 3 ประเด็น คือ 1. เรื่องการเมือง 2. ความขัดแย้งส่วนตัว และ 3. สร้างสถานการณ์ โดยในประเด็นสุดท้ายนี้ ทางชุดคลี่คลายคดีจะรีบเร่งหาหลักฐานในอันดับแรก หากไม่พบว่ามีเรื่องการสร้างสถานการณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะตัดเหลือไว้แค่ 2 ประเด็น โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปภายในสัปดาห์หน้า