xs
xsm
sm
md
lg

​เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ชี้การเมืองหลังประชุมเอเปกวุ่นวายแน่ โดยเฉพาะ​หลังวันที่ 30 พ.ย.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตราด -​ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ชี้การเมืองหลังสิ้นประชุมเอเปกวุ่นวายแน่โดยเฉพาะหลังวันที่ 30 พ.ย.ที่จะมีการกำหนดกฎหมาย​ลูกในการเลือกตั้ง โดยจะมีทั้งความแตกแยก และนักการเมืองย้ายพรรค เผยไม่หวั่นชื่อ "ดร.สมคิด"ไม่ติดโผเป็นนายกฯ เผยยังเหลือเวลาอีกนาน

วานนี้ (17 พ.ย.)​ นายสนธิรัตน์ สนธิจีรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เผยกับสื่อมวลชนภายหลังหลังเข้าร่วมการประชุมศูนย์ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อเลือกตั้งกรรมการศูนย์ และเลือกตัวแทนของศูนย์ประสานงาน จ.ตราด และจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ว่า ความวุ่นวายทางการเมืองที่จะเกิดมาขึ้นหลังการประชุมเอเปก โดยเฉพาะหลังวันที่ 30 พ.ย.2565 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะผ่านกฎหมายลูกสำหรับใช้ในการเลือกตั้ง

และเมื่อนั้นนักการเมืองระดับบิ๊กเนมจะเริ่มเคลื่อนไหวทั้งในรูปแบบการย้ายพรรค ควบรวมพรรค หรือแม้แต่การลาออกจากพรรคหนึ่งเพื่อไปสังกัดอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งสถานการณ์ในขณะนั้น นายกรัฐมนตรีจะสามารถยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ทันที และจะทำให้นักการเมืองต้องรีบตัดสินใจว่าจะอยู่พรรคไหน หรืออยู่ขั้วการเมืองใด

เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตใหม่ ยังบอกอีกว่า ขณะนี้พรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมในการลงเลือกตั้งแล้วถึง 70% และยังสามารถประกาศตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตได้แล้ว และทางพรรคยังเน้นหนักในเรื่องกฎกติกาเลือกตั้งที่จะต้องใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ แบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อ

"สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การยืนอยู่บนสถานการณ์ที่ไม่ขัดแย้งกับขั้วการเมืองใด ทั้งขั้วเผด็จการ หรือประชาธิปไตย และจะขออยู่ขั้วที่ 3 เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ไม่ต้องการความขัดแย้ง ซึ่งที่สุดแล้วพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปสู่สถานการณ์เดิมในอดีตที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่าง 2 ฝ่าย จนประเทศไม่สามารถเดินไปยังจุดไหนได้"


นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นจากโพลต่างๆ ที่ยังไม่มีชื่อของ ดร.สมคิด จาตุรศรีพิทักษ์ ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ทางพรรคไม่วิตกกังวลเนื่องโพลต่างๆ มีความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง ต้องดูว่าในช่วงท้ายๆ บ้านเมืองจะตัดสินใจว่าใครคือคนที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี"

โดยสิ่งสำคัญที่พรรคสร้างอนาคตไทย ต้องเร่งทำคือ การประชาสัมพันธ์พรรคให้เป็นที่รู้จักในภาพรวมให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีคุณภาพให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตัดสินใจ เพื่อเป็นตัวแทนของพรรคในการทำงานเพื่อประชาชน

ส่วนการประชุมศูนย์ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อเลือกตั้งกรรมการศูนย์และเลือกตัวแทนศูนย์ประสานงานเพื่อส่งลงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ตราด ที่ประชุมมีมติเลือก นายอดุลย์ แก้วเยื้อง เป็นประธานศูนย์ นายสุพัฒน์ จุลธนู รองประธาน นายอัศวิน นรินทร รองประธาน นายสมเกียรติ บุญลอย เลขาธิการ 

และกรรมการ 5 คนประกอบด้วย นายสมชาติ เป๊กกี้ นายดำรง ทั่งทอง นายดิเรก บุญชู นายสมศักดิ์ เฟื้องฟู และนายบงกชธร ไพบูลย์






กำลังโหลดความคิดเห็น