xs
xsm
sm
md
lg

ปาฏิหาริย์! พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 และ ร.10 ไม่ถูกไฟเผาจากเหตุเพลิงไหม้วัดดอนทอง ฉะเชิงเทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา​ - ปาฏิหาริย์! พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ​ 10 ไม่ถูกไฟเผาจากเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญและกุฏิพักสงฆ์วัดดอนทอง  จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อคืนวันลอยกระทง เช่นเดียวกับภาพหลวงพ่อโสธร บนปกหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพเกจิชื่อดัง ทั้งที่ศาลาไม้กึ่งคอนกรีต และของสะสมเจ้าอาวาสหลายรุ่นกลายเป็นเถ้าถ่าน 

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ศาลาการเปรียญและกุฏิพักสงฆ์ วัดดอนทอง ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันลอยกระทง จนทำให้ศาลาไม้กึ่งคอนกรีตเก่าแก่อายุประมาณ 50 ปี ได้รับความเสียหายเกือบหมดทั้งหลัง

แต่สิ่งที่สร้างปาฏิหาริย์​จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เลื่อมใสศรัทธาในพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 มากยิ่งขึ้นคือ พระบรมฉายาลักษณ์ของทั้ง 2 พระองค์ที่ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับกองหนังสือธรรมะ และหนังสือที่ระลึกที่มีปกด้านหน้าเป็นภาพหลวงพ่อโสธร ซึ่งจัดพิมพ์เพื่อแจกจ่ายเป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโร เกจิชื่อดังในตำนานประจำ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี พ.ศ.2536 ที่อยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ แม้สิ่งก่อสร้างทั้งหมดจะกลายเป็นเถ้าถ่านก็ตาม


นอกจากนั้น ยังพบว่า ภาพถ่ายของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กทม. เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และอดีตคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในกองเพลิงและไม่ถูกไฟเผาไหม้ไปพร้อมกับตัวอาคารศาลาการเปรียญที่ถูกเผาวอดทั้งหลัง


ขณะที่พระครูใบฎีกาประทิว ยสปาโล เจ้าอาวาสวัดดอนทอง เผยว่า เหตุการณ์​เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นได้ทำให้พระพุทธรูปเชียงแสนเก่าแก่ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 30-40 นิ้ว ที่อยู่ภายในศาลาถูกเพลิงเผาจนเนื้อละลายได้รับความเสียหายอย่างหนัก

เช่นเดียวกับของสะสมที่ตกทอดจากอดีตเจ้าอาวาสในยุคก่อน ไม่ว่าจะเป็นตะเกียงโบราณกว่า 40-50 ดวง และรถจักรยานโบราณอีกกว่า 40 คัน ที่ถูกเพลิงเผาไหม้จนเหลือแต่ซาก

โดยผู้​สื่อข่าว​รายงานเพิ่มเติมว่า วัดดอนทองแห่งนี้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดท่าลาดใต้ และสำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน ปัญญาธโร ซึ่งถือเป็นเกจิชื่อดังทางด้านเครื่องรางของขลังในตำนานประจำ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม ที่เคยปลุกปั้นอดีตสาวโรงงานให้กลายเป็นนางงามชื่อดังระดับประเทศ ในเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2531 ด้วยเครื่องรางปลัดขิกอันเลื่องชื่อ ผู้เข้าประกวดได้นำไปเหน็บไว้ในมวยผมจนได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์


และพระอาจารย์ซ่วน ยังเป็นพระอาจารย์ที่เก่งกาจในด้านการบำบัดทุกข์ทางจิตวิญญาณ เป็นที่พึ่งทางใจด้วยการประกอบพิธีเสริมบุญบารมีให้แก่คนดังในสังคมมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะการสร้างหุ่นปั้นอันเปรียบเสมือนตำแหน่งหน้าที่การงานต่างๆ ที่ผู้คนอยากได้ 

ทำให้ภายในบริเวณวัดที่เกี่ยวข้องกับพระอาจารย์ซ่วน มีหุ่นปั้นที่มีพลังอำนาจหรือฤทธิ์เดชในวรรณคดี และทางความเชื่อทางศาสนาต่างๆ มากมาย

ขณะที่สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน มีหุ่นปั้นมากกว่า 242 ตน ต่อเนื่องไปถึงวัดท่าลาดใต้ และวัดท้าวอู่ไทใน อ.สนามชัยเขต ที่ล้วนต่างมีหุ่นปั้นของพระอาจารย์ซ่วน ตั้งวางเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพในปี พ.ศ.2536 โดยมีอายุ 63 ปี






กำลังโหลดความคิดเห็น