พบหนุ่มใหญ่นอนเสียชีวิตในรถติดแก๊สขณะที่เครื่องยังติดอยู่

สมุทรสงคราม - พบหนุ่มใหญ่นอนเสียชีวิตในรถกระบะติดแก๊ส ริมถนนพระราม 2 ตำรวจสันนิษฐานน่าจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว หรือแก๊สในรถรั่วขณะนอนหลับในรถ พร้อมส่งนิติเวชราชบุรี ชันสูตรหาสาเหตุ

วันนี้ (10 พ.ย.) ร.ต.อ.ธนัญชัย ท้าวสมบูรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้รับแจ้งจากนายสุนทร รอดบุญชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา ว่า มีผู้เสียชีวิตในรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ตอนเดียว เลขทะเบียน ฒจ 9515 กรุงเทพมหานคร ที่กระบะหลังท้ายรถเขียนว่า “รับทำเทรลเลอร์เรือและเจ็ทสกี โทรศัพท์ 061-8760536 Ping” จอดอยู่ริมถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 76+800 ขาเข้ากรุงเทพฯ ห่างจากปั๊มน้ำมันบางจากประมาณ 200 เมตร

จึงพร้อมด้วยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม และแพทย์หญิงรวิภา กาญจวิกัย แพทย์เวรจากโรงพยาบาลอัมพวา ไปตรวจสอบ พบรถกระบะคันดังกล่าวยังติดเครื่องยนต์อยู่ ประตูทั้ง 2 ข้างปิดล็อกด้านใน เมื่อมองเข้าไปภายในรถที่นั่งคนขับพบผู้เสียชีวิตนอนในลักษณะคว่ำหน้าไปทางเบาะข้างคนขับ นอกจากนี้ ยังมีเบาะรองศีรษะคนขับถูกถอดมาอยู่ที่เบาะนั่งด้านซ้าย เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูได้ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายบุรินทร์ พลคะชา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/746 หมู่ที่ 7 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น นุ่งกางเกงขายาว ในตัวพบเงินสดจำนวน 2,580 บาท บัตรประชาชน บัตร ATM และใบขับขี่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพศพเริ่มมีกลิ่นเหม็น แต่ไม่มีบาดแผลถูกทำร้าย

นายสุนทร รอดบุญชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.แพรกหนาม บอกว่า เมื่อตอนค่ำวานนี้ (9 พ.ย.) เห็นรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ คิดว่าคนขับคงจะจอดรถนอนพักผ่อนเพราะเครื่องยนต์ยังติดอยู่ กระทั่งตอนเที่ยงวันนี้มาเห็นอีกว่ารถคันดังกล่าวยังจอดติดเครื่องอยู่ จึงเข้าไปดูพบว่า มีคนนอนอยู่ในรถ จึงเคาะประตูเรียกอยู่นานแต่คนที่นอนอยู่ไม่ตื่น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายบุรินทร์ น่าจะขับรถมาแล้วเกิดอาการอ่อนเพลียจึงจอดรถนอนพักผ่อน และน่าจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวเพราะมีร่องรอยการอาเจียนในรถเล็กน้อย หรือไม่อาจจะเกิดจากรถติดแก๊ส LPG เป็นเชื้อเพลิงแล้วแก๊สเกิดรั่วออกมาขณะที่นายบุรินทร์ นอนหลับอยู่ ทำให้สูดดมแก๊สเข้าไปจนเสียชีวิตก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ตายส่งนิติเวชราชบุรี พิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป