ศรีสะเกษ - กลุ่มพยาบาลวิชาชีพ 198 คนจาก รพ.หลายแห่งใน จ.ศรีสะเกษ ลุกฮือขอโอนย้ายไปสังกัด รพ.สต.ของ อบจ.ที่ถ่ายโอนมาก่อนหน้านี้ ขณะที่นายก อบจ.ศรีสะเกษพร้อมรับโอน แต่ต้นสังกัดไม่ยอมให้ย้ายอ้างขาดอัตรากำลัง วอน รมว.สาธารณสุขช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มพยาบาลวิชาชีพจำนวน 198 คน จากโรงพยาบาลหลายแห่งในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ นำโดย นายแสวงชัย มีแสง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยมีการนำเอาป้ายเรียกร้องมีข้อความว่า พยาบาลวิชาชีพจาก รพช. รพท.รพศ. มีความประสงค์จะถ่ายโอนไปที่ รพ.สต. อบจ.โปรดให้เราไป, ทำงานต่างจังหวัดขอย้ายมาใกล้บ้านย้ายไม่ได้สักที การถ่ายโอนตามภารกิจครั้งนี้ คือช่องทางได้ดูแลพี่น้องของเรา, ข้าราชการถ่ายโอนรอบสองทุกสังกัดของ สธ.ต้องการถ่ายโอนไป อบจ.ตามภารกิจโปรดให้เราไป, ทำงานกับใครเราก็คือพยาบาลวิชาชีพ ให้โอกาสเราทำงานที่เรารักและได้อยู่ใกล้ชิด “คนที่เรารัก” ขอร้อง (!) เป็นต้น
จากนั้นได้ยื่นหนังสือต่อ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกฤษ เพื่อขอให้พิจารณาให้การสนับสนุนพยาบาลวิชาชีพโอนย้ายไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษได้ด้วย
นายแสวงชัย มีแสง ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กล่าวว่า พวกตนจำนวน 198 คนมีความต้องการที่จะขอโอนย้ายไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ เนื่องจากการโอนย้ายไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ แล้วจะได้ไปทำงานที่ รพ.สต.ที่มีการถ่ายโอนมาก่อนหน้านี้ เพราะพวกเราจะได้ทำงานดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งในการดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยนั้น อบจ.ศรีสะเกษมีความพร้อมในทุกด้านที่จะให้การดูแลประชาชนได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะทั้งคน เงิน และอุปกรณ์ต่างๆ อบจ.มีความพร้อมอย่างเต็มที่ ตนและคณะพยาบาลวิชาชีพทั้ง 198 คนจึงขอวอนให้ผู้มีอำนาจโดยพิจารณาอนุญาตให้พวกตนโอนย้ายไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษได้โดยด่วนด้วย
นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนยินดีอยู่แล้วหากพยาบาลวิชาชีพจะมาอยู่ในสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ ตนเห็นว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้อยู่ที่ไหนก็ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลจะอยู่ที่ อบจ.หรืออยู่ที่ รพ.สต.อะไรต่างๆ หน้าที่หลักของเขาเหล่านั้นคือดูแลสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชน ซึ่งก็เหมือนกันไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เพียงแต่ว่ากระทรวงแต่ละแห่งจะเป็นปัญหาของแต่ละคนที่จะนำไปสู่การแก้ไข ไม่ใช่บอกว่ากำลังคนไม่เพียงพอคุณไม่ให้ไปนั่นมันไม่ใช่ เพราะเป็นอนาคตของพยาบาลวิชาชีพทุกคน ต้นสังกัดของพยาบาลวิชาชีพที่ขอถ่ายโอนจะต้องไปหาวิธีที่จะแก้ไข
คนจบพยาบาลเยอะแยะ คนที่จบทางนี้อยากไปมีอาชีพเป็นพยาบาลก็เยอะ ไม่ควรที่จะมาเหนี่ยวรั้งพยาบาลวิชาชีพเหล่านี้เอาไว้ คือคนเขาอยากจะมาอยู่แล้ว คนอยากจะมาแล้วมาดึงไว้มันก็ไม่เกิดประโยชน์ กำลังใจในการทำงานก็ไม่มี หากเราอยู่ที่ไหนแล้วทำงานสบายใจ ในการทุ่มเททำงานให้กับพี่น้องประชาชนก็จะสามารถทำได้อย่างเต็มที่ ตนก็เช่นกันหากมีอะไรมากระทบจิตใจก็ไม่อยากจะทำงาน
“ขอฝากถึงกระทรวงสาธารณสุขให้ช่วยพิจารณา ควรที่จะให้ไป หรือจะมากักขังเขาไว้อย่างนี้ คำว่ากักขังนี้ก็คือกักขังด้านความคิดจิตใจก็ไม่สมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่นโยบายของรัฐบาล เราผู้น้อยก็ได้แค่พูด” นายวิชิตกล่าวในตอนท้าย
