ศูนย์ข่าวขอนแก่น-กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จับมือคณะเทคโนโลยีมข. ติวเข้มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ยกระดับและเพิ่มมูลค่ามะม่วงอีสานสู่สินค้าแปรรูป นำร่องพัฒนาเป็นมะม่วงผงและมะม่วงเพียวเร่ หลังตลาดต้องการสูง “อริยาพร” ย้ำชัดไม่หวงสูตร ไม่สงวนลิขสิทธิ์
เมื่อเร็วๆนี้ ที่อาคารปฏิบัติการแปรรูปอาหาร ตึก 4 คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ผศ.ดร.อารยา เชาว์เรืองฤทธิ์ คณบดีคณะเทคโนโลยี มข. ร่วมเป็นประธานเปิดฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะกระบวนการแปรรูปมะม่วงผงอบแห้งและมะม่วงเพียวเร่ ซึ่งจัดขึ้นตามโครงการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจการผลิตผลไม้ไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2565 มีเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงใน จ.ขอนแก่น,มหาสารคาม,กาฬสินธุ์ และจ.นครราชสีมา เข้าร่วมรับฝึกอบรมรวมกว่า 60 คน
ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า มะม่วงเป็นพืชที่มีเกษตรกรปลูกมากที่สุด ปัจจุบันมีครัวเรือนเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงรวมทั้งประเทศกว่า200,830 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูก 913,788.60 ไร่ มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 433,474.66 ไร่ มีผลผลิตรวมประมาณ 1 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 2,082 กก.ต่อไร่ ที่ผ่านมา การผลิตมะม่วงมีอัตราการขยายตัวของแต่ละพื้นที่และมีผลผลิตที่เพิ่มขึ้น จนเกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำและล้นตลาด
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงกำหนดนโยบายและแผนปฏิบัติการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้วยการยกระดับสินค้าเกษตรสู่อุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นน้ำคือเกษตรกรผู้เพาะปลูก จนถึงปลายน้ำคือผู้แปรรูปและส่งออก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรม และลดความเสี่ยงด้วยการจัดการ รวมถึงช่วยพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ ที่สำคัญคือช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกร และเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของไทยในระดับสากล
ขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนที่ 1 ที่คณะทำงานร่วมระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกับ มข.ได้ดำเนินงาน การจัดอบรมที่ มข.ครั้งนี้มีเกษตรกรเป้าหมาย 60 คน และทั้งประเทศ คือจะมีกลุ่มผู้ปลูกมะม่วงประมาณ 400 คน ที่จะเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้การแปรรูปมะม่วงตามสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกัน ซึ่งภาคอีสานจะเด่นเรื่องมะม่วงน้ำดอกไม้และมะม่วงแก้วขมิ้น จึงเป็นที่มาของการฝึกอบรมในการทำมะม่วงผงและมะม่วงเพียวเร่ ซึ่งเป็นการแปรรูผลไม้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัตถุดิบแปรรูป เบื้องต้นให้มีอายุเก็บรักษานานขึ้น สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ธุรกิจบริการอาหารเครื่องดื่ม และเมื่อการอบรมทั้งประเทศในกลุ่มเป้าหมาย 400 คนครบแล้ว จะคัดเลือกให้เหลือ 15 คน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ในการยกระดับผลิตภัณฑ์แปรรูปเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ตามแผนการเชื่อมโยงมะม่วงเข้าสู่ธุรกิจอาหารที่สมบูรณ์แบบและเกิดความยั่งยืนให้กับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่
ดร.อริยาพร กล่าวต่ออีกว่าการจัดการเรียนการสอนครั้งนี้ สูตรการทำต่างๆที่คณะอาจารย์ได้ถ่ายทอดและพาลงมือทำเพื่อปฏิบัติจริง ทุกสูตรนั้นจะส่งมอบให้กับเกษตรกรทุกคน เรียกได้ว่าไม่หวงสูตรและไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพราะมะม่วงเป็นผลไม้ที่มีอายุสั้น ดังนั้นการแปรรูปและแปรสภาพที่ถูกต้อง ตรงตามหลักวิชาการ มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยเกษตรกรสามารถดำเนินการได้ ควบคู่กับการส่งออกมะม่วงสด จะก่อให้เกิดความยั่งยืนกับเกษตรกรไทย
ที่สำคัญคือการต่อยอดผลิตภัณฑ์มะม่วงไทยโดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งมีรสชาติดี อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และแหล่งของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินชนิดต่างๆ มีสรรพคุณทางยา และเป็นที่ต้องการของตลาดผลไม้ทั่วโลก ดังนั้นเมื่อการอบรมดังกล่าวเสร็จสิ้น หากจะมีการเติมสูตรเด็ดเฉพาะภูมิภาคหรือสูตรเด็ดประจำถิ่นเข้าไป ก็จะสร้างมูลค่ามะม่วงแปรรูปตามความต้องการของตลาดได้อย่างดีอีกด้วย
