สมุทรสงคราม - หญิงชราวัย 98 ปี ตกน้ำเสียชีวิต โดยมีสุนัข 4 ตัวที่เลี้ยงไว้เฝ้าศพไม่ห่าง อีกทั้งขู่คนที่เข้าใกล้จะไม่ให้เก็บศพ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง สร้างความคุ้นเคยจึงนำศพออกไปได้
วันนี้ (1 พ.ย.) พ.ต.ท.ธราเทพ จันทร์ดิษฐ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งมีคนตกจมน้ำเสียชีวิตในลำประโดงข้างบ้านเลขที่ 29/1 หมู่ 5 ต.ท้ายหาด อ.เมืองสมุทรสงคราม จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม พบศพนางบุญส่ง เพ็ญเสรี อายุ 98 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าวญาติๆ ได้นำศพขึ้นจากน้ำในลำประโดง กว้าง 2 เมตร ลึกเมตรเศษ มาวางนอนบนแคร่หน้าบ้าน ตามลำตัวไม่พบร่องรอยบาดแผลถูกทำร้าย
โดยมีสุนัขพันธุ์ไทยที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ 4 ตัว แต่ละตัวอยู่ในอาการซึมเศร้าเดินไปมาเคียงข้างศพไม่ห่าง อีกทั้งยังขู่คนแปลกหน้าที่เข้าใกล้ ทางญาติผู้ตายต้องมาอุ้มออกไปหลายครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปชันสูตรศพ แต่สุนัขทั้ง 4 ตัว ยังพยายามกลับมาหาผู้ตาย สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงทำความคุ้นเคย สุนัขทั้ง 4 ตัว จึงยอมให้นำร่างเจ้านายไปขึ้นรถมูลนิธิ แต่ยังมีตัวหนึ่งชื่อ "มอม" ตามเจ้าหน้าที่นำศพนางบุญส่ง ไปขึ้นรถไม่ห่าง จนรถของเจ้าหน้าที่ขับออกจากบริเวณบ้าน เจ้ามอม ถึงได้หยุดตามและเดินกลับเข้าบ้าน สร้างความสลดใจแก่ผู้พบเห็น
ลูกสาวผู้ตายกล่าวว่า มารดาอาศัยอยู่ในบ้านกับตนและหลาน โดยเลี้ยงสุนัขไว้ 4 ตัว ที่แม่ได้เลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังเล็กๆ ไปไหนก็คอยติดตามไปด้วยกันจนเกิดเป็นความรักความผูกพัน ระยะหลังแม่เจ็บป่วยบ่อยครั้ง อีกทั้งเริ่มมีอาการหลงๆ ลืมๆ และชอบหนีออกไปนั่งในป่าข้างบ้านเป็นประจำ ที่ผ่านมา ลูกหลานได้พยายามปิดล็อกประตู หน้าต่างเพื่อไม่ให้มารดาหนีออกจากบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนเองไปทำธุระ ปรากฏว่ามารดาปีนหน้าต่างชั้นล่างออกจากบ้านแล้วหายตัวไป ตนเองจึงตามหากระทั่งพบร่องรอยตะกรุยดินริมลำประโดง ข้างบ้านเป็นทางยาว และพบร่างมารดาจึงรีบลงไปนำร่างมารดาขึ้นมานอนบนแคร่หน้าบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่มารดาได้เสียชีวิตไปแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายซึ่งมีอาชีพทำสวนมะพร้าวพอมีอาการหลงๆ ลืมๆ ก็อาจนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เข้าไปทำสวน จึงพยายามที่จะออกจากบ้านไปสวนตลอดเวลา กระทั่งพลัดตกลงไปในลำประโดงช่วยเหลือตนเองไม่ได้ทำให้จมน้ำเสียชีวิตก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่นำศพนางบุญส่ง ส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
