บุรีรัมย์- อากาศเริ่มหนาว นกต่างถิ่นและนกอพยพหนีหนาวไซบีเรียกว่า 100 ชนิดหลายพันตัว เริ่มเข้ามาทำรังวางไข่และหากิน ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า “อ่างเก็บน้ำสนามบิน” บุรีรัมย์ อ.ประโคนชัย อีกแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของ จ.บุรีรัมย์ ขณะเจ้าหน้าที่ พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว กางเต็นท์นอน ส่องดูนกฟรี
วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เริ่มมีสภาพอากาศหนาวเย็นลงแล้ว ทำให้ในช่วงนี้ใครที่สัญจรไปมาผ่านถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2445 สาย บุรีรัมย์-ประโคนชัย จะมีโอกาสได้พบเห็น นกอพยพหนีหนาว จากไซบีเรีย และนกหายากจากต่างถิ่น เช่น กาน้ำเล็ก ยางเปีย ยางควาย ไอ้งั้ว นกปากห่าง และนกนานาชนิดมากกว่า 100 ชนิด รวมจำนวนนับพันตัว ได้อพยพเข้ามาอาศัย หากิน และทำรังวางไข่ในพื้นที่ชุ่มน้ำของ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด และเป็นจุดที่นกหลากหลายชนิด มักอพยพหนีหนาว มาหากินและวางไข่ เป็นประจำทุกปีที่ในช่วงหน้าหนาวเย็นลง โดยเฉพาะนกปากห่าง ที่ในระยะหลังนี้ พบว่าได้อพยพเข้ามาอาศัยหากิน ทำรังวางไข่อยู่ แทบจะเป็นนกประจำถิ่นไปแล้ว
ในฤดูหนาวของปีนี้คาดว่า จะมีนกหนีหนาว และนกจากต่างถิ่น อพยพเข้ามาหากินและทำรังวางไข่ในพื้นที่ชุ่มน้ำของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย จำนวนนับหมื่นตัว เนื่องจากพื้นที่ชุ่มน้ำดังกล่าว เป็นแหล่งที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ และมีความปลอดภัยจากการถูกรบกวน หรือคุกคาม รวมถึงจากการล่าทำร้าย เพราะนอกจากเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินอยู่แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ คอยตรวจตราดูแลอย่างต่อเนื่องด้วย
นายถาวร สุดาจันทร์ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นกต่างถิ่นและนกหายาก เช่น นกปากห่าง นกไอ้งั่ว นกแฝก นกกาน้ำเล็ก กาน้ำปากยาว กระสาแดง ยางเปีย ยางควาย ยางโทนเล็ก ยางโทนใหญ่ คับแค เป็ดแดง และนกชนิดอื่นๆ นับร้อยหลายชนิด อพยพหนีหนาวมาอยู่อาศัยเพื่อหากินและทำรังวางไข่ ที่บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน เป็นจำนวนมาก ซึ่งการอพยพมาแต่ละครั้งถือเป็นตัวชี้วัด ดัชนีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
นายถาวร กล่าวต่อว่า โดยในปีนี้ถือว่านกอพยพ มาค่อนข้างเร็ว และคาดว่าน่าจะเยอะกว่าปีก่อนๆ ถึงแม้จะเป็นช่วงเดือนปลายฝนต้นหนาว แต่เท่าที่ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ พบว่ามีนกอพยพเข้ามาอยู่ราวกว่า 2,000 ตัวแล้ว และคาดว่าปีนี้จะมีมาอยู่รวมแล้วนับหมื่นตัว เนื่องจากที่ผ่านมาทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อ่างเก็บน้ำสนามบิน ได้มีนโยบายห้ามประชาชนมาลักลอบจับสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของนก รวมถึงมีการให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมมาโดยตลอด จึงทำให้สภาพแวดล้อมในพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อ่างเก็บน้ำสนามบิน ยังเป็นศูนย์เพาะเลี้ยงนกกระเรียนพันธุ์ไทย ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเพาะเลี้ยงและปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติไปแล้วถึง 133 ตัว ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน กับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งนกกระเรียนพันธุ์ไทย ถือเป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 15 ชนิดของประเทศไทย ซึ่งเดิมเคยพบกระจายในพื้นที่ชุมน้ำจังหวัดบุรีรัมย์ และได้สูญหายไปจากพื้นที่ธรรมชาติเป็นเวลานานกว่า 50 ปีมาแล้ว
อย่างไรก็ตามทางเขตห้ามล่าฯ ยังได้เปิดพื้นที่ให้ พี่องประชาชนที่ชื่นชอบการดูนก และท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ รวมถึงประชาชนผู้สนใจทั่วไป สามารถเข้ามาตั้งแค้มป์ กางเต็นท์นอนพักแรมค้างคืน เพื่อถ่ายภาพนก และส่องนก สัมผัสอากาศหนาวเย็นในช่วงนี้ได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัย
แต่ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าส่งเสียงดังจนเป็นที่รบกวนการอยู่อาศัยของนก และร่วมกันอนุรักษ์อย่าทำร้ายนกทุกชนิด ที่เข้าอาศัยหากินและทำรังวางไข่ในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะมีนกหนีหนาวเข้ามาหากินและทำรังวางไข่ไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว หรือตลอดไปจนถึงเดือนเมษายน 2566
