xs
xsm
sm
md
lg

“ปวีณา”บุกเมืองพิจิตร!พาเด็กหญิง 13 ขวบ แจ้งจับคนที่นับถือเป็นปู่ ข่มขืนมาราธอนนาน 7 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิจิตร – ย่าสุดทนพาหลานสาววัย 13 ขวบ ร้อง “ปวีณา” พาแจ้งความจับลูกจ้างหน่วยกู้ชีพกู้ภัย ที่เด็กนับถือเป็นปู่ ลวงล่วงละเมิดทางเพศ-กระทำชำเรามาราธอนนานถึง 7 ปี ตั้งแต่อายุแค่ 6 ขวบ


วันนี้(29 ต.ค.65) นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้นำเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี และนางต้อย (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี ชาวบ้านอยู่ ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร เข้าพบ พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.พิจิตร เพื่อร้องทุกข์ กรณีเด็กหญิงเอ ถูกล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากพ่อของเด็กหญิงเอ ที่ป่วยด้วยโรคจิตเวช ได้แยกทางกับภรรยา ซึ่งภรรยาก็ทิ้งเด็กหญิงเอ ลูกสาวไว้ให้อยู่กับพ่อที่เป็นผู้ป่วย ตั้งแต่อายุได้เพียง 6 ขวบ จึงทำให้เด็กหญิงเอ ต้องมาอยู่ในความดูแลของนางต้อย ผู้เป็นย่าแท้ๆ แต่ตอนนั้นผู้เป็นย่า คือ นางต้อยก็ต้องไปทำงานที่เกาะล้านไม่สามารถนำหลานไปอยู่ด้วยได้ จึงนำเด็กหญิงเอ ไปอยู่กับพี่สาวของตัวเอง คือ นางบุญมา(นามสมุติ)อายุ 67 ปี ซึ่งมีสามีชื่อ นายประเดิม(นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ซึ่งทั้งสองคนนี้ถ้านับญาติแล้วก็เป็นเหมือนเป็นปู่กับย่าของเด็กหญิงเอด้วยเช่นกัน

แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเด็กหญิงเอ ที่อายุ 6 ขวบ กลับถูกนายประเดิม อายุ 52 ปี ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ให้ดูคลิปหนังโป๊-หนังX ทางมือถือ และก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเรื่อยมายาวนานถึง 7 ปี

นางต้อย ซึ่งเป็นย่าแท้ๆของเด็กหญิงเอ เล่าว่า ตนมารู้เรื่องตอนหลายอายุ 13 ปีนี้เอง หลังหนึ่งโทรศัพท์ของเด็กหญิงเอ เสียใช้งานไม่ได้ นายประเดิม ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ก็เอาโทรศัพท์มือถือของตัวให้เด็กหญิงเอใช้เล่นเกมส์หรือดูหนัง กระทั่งเด็กหญิงเอ เข้าไปเห็นคลิปในมือถือจึงได้นำภาพเหล่านั้นส่งไปให้ย่าได้ดู เมื่อเห็นคลิปก็ตกใจมาก จึงสอบถามเรื่องราวและหาทางดำเนินคดีกับนายประเดิม โดยได้ไปร้องกับนางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้ช่วยทางมาตรการทางกฏหมาย

“2-3 วัน ที่ผ่านมา ระหว่างที่พาเด็กหญิงเอ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา และได้ไปพักอาศัยกับเพื่อนในหมู่บ้านแถวบางบัวทอง ปรากฎว่านายประเดิม ได้แชทไลน์ส่งข้อความมาคุยกับเด็กหญิงเอ ในลักษณะง้อขอคืนดี บอกว่ารัก บอกว่าคิดถึงให้กลับมาพิจิตรได้แล้ว ปู่คิดถึง ถ้าหนูมีแฟนแล้ว ปู่ไม่ยุ่งหรอก แต่กลับมาได้แล้ว ซึ่ง เด็กหญิงเอ ได้แต่อ่านข้อความแต่ไม่ตอบ นายประเดิมก็ส่งข้อความมาอีกว่า ปู่จะฆ่าตัวตายแล้วนะ ปู่จะมาบอกลา-รอมาดูศพปู่นะ-ไม่รักปู่มั่งหรอ-ปู่อยากเจอ-ใจปู่จะขาดแล้ว-ให้ปู่ไปรับไหม และข้อความอื่นๆ อีกมากมายที่”

นอกจากนี้บางช่วงนายประเดิม ยังส่งข้อความแชทไลน์มาขู่จะฆ่าและส่งภาพฆ่าแมวที่เด็กหญิงเอ เลี้ยงไว้มาให้ดูเป็นการข่มขู่ ทำให้ทั้ง เด็กหญิงเอ และ นางต้อย ผู้เป็นย่าแท้ๆ หวาดกลัว


ทั้งนี้นางปวีณา มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้นำหลักฐานทั้งหมดยื่นต่อ พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 ซึ่งสั่งการมายัง พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.พิจิตร และ พ.ต.อ.อนุพันธุ์ สุสม ผกก.สภ.เมืองพิจิตร เพื่อติดตามคดีและนำหลักฐานไปขออำนาจศาลจังหวัดพิจิตร ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา ฐานความผิดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร ได้นำหมายจับเข้าควบคุมตัว นายประเดิม(นามสมมุติ) ได้ในที่ทำงาน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหารายนี้ทำงานเป็นลูกจ้างหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอยู่ที่ อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองพิจิตร เบื้องต้นผู้ถูกล่าวหายังให้การปฎิเสธ

พล.ต.ต.กำธร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากข้อกลาวหาตามหมายจับแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ดำเนินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์พ่วงไปด้วยอีกหนึ่งข้อหา หลังจากผู้ถูกกล่าวหาได้ฆ่าแมวของเด็กหญิงเอ รวมถึงผู้เสียหายก็จะยื่นขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ถูกกล่าวหาจะมาทำอันตรายได้


กำลังโหลดความคิดเห็น