ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผลจากน้ำท่วม พื้นที่เกษตรจมน้ำส่งผลให้ผักสดหลายชนิดขาดแคลน ผักสดในตลาดสดที่ขอนแก่นราคาพุ่ง “กะเพรา-แมงลัก” จากเดิมกิโลฯ ละ 20 บาท ตอนนี้พุ่งถึงกิโลฯ ละ 100-150 บาท คาดผักสดจะราคาแพงไม่ต่ำกว่า 3 เดือนจนกว่าผักรุ่นใหม่ได้เก็บเกี่ยว
ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเริ่มคลี่คลายลง หลายจังหวัดน้ำที่ท่วมขังลดระดับลงเรื่อยๆ ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่พื้นที่การเกษตรจำนวนหลายพันหลายหมื่นไร่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ผักสดในตลาดมีไม่พอต่อความต้องการบริโภค พืชผักสวนครัวแต่ละชนิดต่างปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาวยุพิน คล้ายโพธิ์ทอง อายุ 40 ปี แม่ค้าแผงผักสด ร้าน “บิวผักสด” บอกว่า แม้ตอนนี้พื้นที่จังหวัดขอนแก่นและอีกหลายจังหวัดภาคอีสานระดับน้ำที่ท่วมขังจะลดลงใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังไม่สามารถปลูกพืชผักกันได้ ทำให้ราคาผักแต่ละชนิดเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ร้านของตนเองที่รับผักสดมาขายต่อต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่กำไรที่ได้กลับน้อยลง โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน เช่น ใบกะเพรา จากเดิมซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 5-10 บาท ตอนนี้ต้องซื้อในราคา 100 บาท/กิโลกรัม ใบแมงลัก จากเดิมกิโลกรัมละ 20 บาท ตอนนี้ซื้อในราคา 150-200 บาท
ส่วน ต้นหอม จากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท ต้องซื้อในราคา 170 บาท กะหล่ำปลี จากเดิมซื้อในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ตอนนี้ 105 บาท ผักบุ้ง จากเดิมซื้อในราคากิโลกรัมละ 5-10 บาท ปัจจุบันซื้อในราคา 50 บาท และมะเขือเปราะ จากเดิมซื้อในราคากิโลกรัมละ 120 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคา 400 บาท
“ผักที่เห็นวางขายในตลาดสดในเมืองขอนแก่นเป็นผักที่นำเข้าจากต่างจังหวัด เช่น เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ชัยภูมิ และอุดรธานี ซึ่งก็ต้องบวกค่าต้นทุนจากการขนส่งด้วย ราคาผักถึงได้สูงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว” นางสาวยุพินกล่าว และว่า
เมื่อราคาผัดสดแทบทุกชนิดมีราคาสูงขึ้น ทางร้านจึงต้องใช้วิธีการปรับลดจำนวนของผักที่นำมาแบ่งขายเป็นมัดลง ได้กำไรมัดละ 5 บาท แล้วแต่ชนิดของผัก เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างราคารับซื้อมา และราคาที่ขายไปให้ลูกค้า ทางร้านจะบอกลูกค้าก่อนว่าผักบางชนิดมีราคาแพง หากต้องการซื้อก็จะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าราคาผักจะยังคงสูงต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3 เดือนจึงจะเริ่มราคาลดลง เนื่องจากเกษตรกรผู้เพาะปลูกผักสามารถกลับมาเพาะปลูกได้ตามปกติ
