จัดประชุมพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำเก็บกักแหล่งน้ำขนาดเล็กในภาคอีสาน

ยโสธร - สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 11 จัดประชุมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำเก็บกักในแหล่งน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ภาคอีสาน


เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องประชุมโรงแรมเดอะกรีนปาร์ค แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ดร.สุประภาพ พัฒน์สิงหเสนีย์ ผู้อำนวยการศูนย์เมขลา กรมทรัพยากรน้ำ เป็นประธานประชุมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนระดับสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 11 โครงการพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำเก็บกักในแหล่งน้ำขนาดเล็กพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะที่ 2 โดยมี ดร.กฤษณัส สุรกิตย์ ทีมวิศวกรโครงการกล่าวรายงาน มีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นตัวแทนแหล่งน้ำจาก 5 แหล่งน้ำ รวม 21 ราย จากจังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี และยโสธร

สำหรับโครงการพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำเก็บกักในแหล่งน้ำขนาดเล็ก พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะที่ 2 เกิดขึ้นจากความต้องการแก้ปัญหาของภาครัฐด้านการบริหารจัดการภัยแล้ง และภัยจากน้ำหลาก โดยที่หน่วยงานของรัฐยังขาดข้อมูลด้านบัญชีแหล่งน้ำในระดับตำบล และระดับหมู่บ้าน ส่งผลให้ไม่รู้ปริมาณน้ำที่แท้จริงในแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้ประโยชน์สำหรับเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร เมื่อถึงฤดูแล้งและฤดูน้ำหลาก


ปัญหาดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถประเมินศักยภาพการเก็บกักปริมาณน้ำที่มีในปัจจุบัน และปริมาณน้ำที่คาดว่าจะขาดแคลนในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังช่วยให้สามารถวางแผนการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรน้ำได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ กรมทรัพยากรน้ำได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาเป็นที่ปรึกษาให้โครงการ เพื่อศึกษาและสำรวจแหล่งน้ำในพื้นที่ พร้อมทั้งดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในระดับแหล่งน้ำ เพื่อการประชาสัมพันธ์โครงการการสร้างการรับรู้ การรวมรวบข้อมูลกิจกรรมการใช้น้ำ และการรับฟังข้อเสนอแนะ รวมทั้งแนวทางแก้ไขปัญหาโดยนำร่องระยะที่ 1 เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จำนวน 80 แหล่งน้ำ และระยะที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จำนวน 46 แหล่งน้ำ รวม 126 แหล่งน้ำ คลอบคลุมพื้นที่ 3 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล ในพื้นที่ 17 จังหวัด