ผู้ว่าฯ อยุธยาลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และสถานที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา

พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อยุธยาลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมตรวจความแข็งแรงของแนวคันป้องกันน้ำท่วมสถานที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยเทศบาลตำบลตลาดเกรียบ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน น้ำเหนือได้เดินทางมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ทำให้สถานที่สำคัญและบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และได้เดินทางไปติดตามการเสริมแนวป้องกันรับมือน้ำท่วมในพื้นอำเภอบางปะอิน เช่น พระราชวังบางปะอิน วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อำเภอบางปะอิน พบว่าระดับน้ำสูงขึ้นเช่นกัน

ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 2 แห่ง ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบในเบื้องต้นอย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันยังคงมีการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งพนังกั้นน้ำ และเตรียมก่อกระสอบทราย ซึ่งได้รับการสนับสนุนกำลังพลจากกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารม้าที่ 5 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ นำกำลังมาประจำในพื้นที่ตั้งแต่เดือน กันยายนที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อภิชัย วิไลเนตร ผบ.มทบ.18 นายประพันธ์ ตรีบุปผา ปลัดจังหวัด รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปะอิน หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่และรายงานสถานการณ์น้ำ

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมทางด้านบนแถวนครสวรรค์ทรงตัว แต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่สรรพยาเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของเราขึ้นบ้างในส่วนของป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปล่อยลดลง รับแจ้งว่าในช่วง 2-3 วันนี้จะปรับลดลง จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น สถานการณ์ปีนี้มากกว่าปี 64 ปริมาณน้ำที่มาเยอะกว่าปี 64 น้อยกว่าปี 54 แต่การระบายน้ำส่วนใหญ่อยู่ในลำน้ำใหญ่ ทำให้ระดับน้ำยกตัวสูงขึ้น ทำให้พี่น้องที่อยุ่นอกคันจะได้รับความเดือดร้อนมาก

แนวทางในการดูแล เรามีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับอำเภอและศูนย์ฉุกเฉินในระดับตำบล เทศบาล เข้าไปให้การช่วยเหลือ ตอนนี้เราจะเข้าไปดูในเส้นทางเข้าออกเพื่อไปอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน โดยมีหน่วยทหารในพื้นที่และภาคเอกชนเข้ามาช่วย พื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีทุ่งรับน้ำอยู่ 7 ทุ่ง แต่ละทุ่งจะเป็นพื้นที่รับน้ำส่วนหนึ่ง ช่วยชะลอน้ำในการลงไปพื้นที่ด้านล่าง การบริหารการจัดการน้ำเป็นการช่วยกัน โดยมี สทนช. กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้บริหารจัดการ

การช่วยเหลือเราใช้ศูนย์แต่ละจุดเพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อน เรื่องของการเดินเข้าออกซึ่งต้องอยู่กับน้ำท่วมขัง เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเดินทางสำคัญไปประกอบอาชีพ ทำทางเดินให้และมีการนำเรือไปแจกในการส่งเครื่องอุปโภคบริโภค มีการจัดรอบเวรในการแจก ไม่ให้ซ้ำซ้อนและเกิดการต่อเนื่อง

สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ทั้งหมด 16 อำเภอ ปัจจุบัน ประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 14 อำเภอ 150 ตำบล 963 หมู่บ้าน 66,348 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบรวม 13,417.1 ไร่ และเร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ในเบื้องต้น โดยปัจจุบันยังคงมีการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน หน่วยงาน ห้างร้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น และเฝ้าระวังสภาพอากาศแปรปรวนช่วงวันที่ 14-15 ตุลาคม 2565 จากผลกระทบพายุดีเปรสชัน ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือแจ้งเหตุได้ที่ ปภ.สายด่วน 1784