ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจออีกหนุ่มหลอนยาหวั่นมีคนตามฆ่า ใช้มีดจ้วงแทงแฟนสาว 5 แผลเจ็บสาหัส ซ้ำกักขังในบ้านเป็นตัวประกัน ตร.สัตหีบ สนธิกำลังสยบไอ้คลั่งก่อนนำตัวออกจากพื้นที่หนีถูกรุมประชาทัณฑ์ ด้านผู้บาดเจ็บเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ 13 ต.ค.) ร.ต.อ.(หญิง) จิรญา ทองช้อย รองสารวัตรสอบสวน ได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งทำร้ายคนในบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 71/12 ซอยสัตหีบสุขุมวิท 13 ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เข้าระงับเหตุ
พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวปูนชั้นเดียว รั้วรอบขอบชิด ประตูถูกล็อกจากด้านในทุกบาน ขณะที่บนพื้นหน้าบ้านพบกองเลือดขนาดใหญ่ โดยพบ นายสมหวัง สังข์อุดม อายุ 33 ปี ที่กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งตะโกนโวยวายว่าถูกคนมาตามฆ่า และยังได้จับตัว น.ส.รุ่งทิวา เห้งเส็ง อายุ 30 ปี แฟนสาวที่ได้รับบาดเจ็บเป็นตัวประกันอยู่ภายในห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจนำทีมพร้อมโล่กันกระสุนพังประตูบ้านเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และให้การช่วยเหลือนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากบ้านเพื่อเร่งนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
เนื่องจากผู้บาดเจ็บถูกมีดทำครัวยาว 9 เซนติเมตร ซึ่งตกอยู่บนพื้นห้องน้ำแทงเข้าที่บริเวณลำคอขวา 1 แผล ราวนมขวา 2 แผล และชายโครงขวา 1 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวออกจากจุดเกิดเหตุเพราะหวั่นว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์โดยกลุ่มชาวบ้าน และน้องชายของผู้ได้รับบาดเจ็บที่ตะโกนด่าด้วยความโกรธแค้น และพยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ
จากการสอบถาม น.ส.กฤษฎี จงรัตนดี อายุ 50 ปี มารดาของผู้ได้รับบาดเจ็บและเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่า ลูกสาวได้คบหากับผู้ก่อเหตุมานานประมาณ 4 เดือน และก่อนเกิดเหตุได้ถูกแฟนหนุ่มตามราวีถึงบ้าน ในสภาพมีอาการคลุ้มคลั่งจากการหลอนยาเสพติด และเห็นว่ามีคนมาตามฆ่า
“ในครั้งแรกผู้ก่อเหตุได้ใช้กรรไกรจ้วงแทงลูกสาวบริเวณหน้าบ้านก่อนจะลากเข้าไปกักขังอยู่ภายในบ้าน ส่วนตัวเองได้รีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาแจ้งญาติให้ช่วยแจ้งตำรวจ” น.ส.กฤษฎี กล่าว
อย่างไรก็ดี ร้อยเวรเจ้าของคดีได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมได้เชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปทำการสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุที่อาจเข้าข่ายในความผิดฐานพยายามฆ่า กักขังหน่วงเหนี่ยว และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)