ศูนย์ข่าวศรีราชา - โวยอู่ซ่อมรถยนต์ชื่อดังใน จ.ชลบุรี ดองรถลูกค้านับสิบคันนานหลายเดือนไม่ซ่อมจนสภาพเสียหาย ซ้ำทำเจ้าของรถแทบช็อก บุกตรวจสอบไม่พบอะไหล่รถของตนเอง รวมตัวร้องนายอำเภอเมืองชลบุรี และตำรวจเอาผิด จี้ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายหลังทนทุกข์ไม่มีรถใช้และยังต้องผ่อนวิญญาณ
วันนี้ (11 ต.ค.) กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถยนต์ชื่อดังใน จ.ชลบุรี ได้รวมตัวเข้าพบ นายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน นายอำเภอเมืองชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ไม่ซื่อตรงของเจ้าของอู่รถยนต์ในพื้นที่ หลังส่งรถเข้าซ่อมนานหลายเดือนแต่ไม่ได้รับการซ่อมแซม ซ้ำอะไหล่รถยนต์ยังสูญหายเกือบหมด ขณะที่รถถูกดองนานจนเกิดความเสียหาย
โดยผู้เสียหายทั้งหมดได้เรียกร้องให้เจ้าของอู่ซ่อมรถดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และยังยืนยันว่าจะนำรถยนต์ของตนเองไปซ่อมที่อื่น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอำเภอเมืองชลบุรีแล้ว ผู้เสียหายพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้เดินทางไปอู่ซ่อมรถยนต์ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.หนองข้างคอก อ.เมืองชลบุรี ที่มีลักษณะคล้ายโกดัง และด้านในมีรถยนต์จอดอยู่เกือบ 20 คัน ซึ่งทุกคันอยู่ในลักษณะจอดซ่อมนานจนฝุ่นเกาะ
ขณะที่เจ้าของรถบางรายเมื่อเห็นสภาพรถยนต์ของตนเองถึงกับน้ำตาซึม พร้อมเผยว่าดูไม่น่าเชื่อว่ารถที่นำเข้าซ่อมในครั้งแรกมีสภาพบุบเล็กน้อย แต่ขณะนี้กลับพบว่าอะไหล่รถหายหมดจนไม่เหลือสภาพรถคันเดิม
นอกจากนั้น ยังมีเจ้าของรถยนต์อีกหลายรายที่ยืนยันจะนำรถยกมายกรถยนต์ของตนเองออกจากอู่ดังกล่าวโดยได้รับการยินยอมจาก นางเอก (นามสมมติ) แม่เจ้าของอู่ที่อ้างว่าลูกชายซึ่งเป็นเจ้าของเดินทางไป จ.สุรินทร์ ทำให้เจ้าของรถผู้เสียหายต้องได้เดินทางไปลงบันทึกแจ้งความที่ สภ.เมืองชลบุรี
ส่วนบางรายยืนยันจะขอพูดคุยกับเจ้าของอู่ดังกล่าวเพื่อตกลงเรื่องค่าเสียหายเพื่อจะนำรถกลับไปซ่อมที่อู่แห่งใหม่
โดย น.ส.ศุภรัตน์ ทองวนิช หนึ่งในผู้เสียหายเผยว่า การรวมตัวร้องเรียนเจ้าของอู่ซ่อมรถในครั้งนี้เพื่อต้องการให้เจ้าของอู่ออกมาชี้แจงว่าเพราะเหตุใดอะไหล่รถของลูกค้าจึงหายไป และเพราะเหตุใดรถที่นำไปจอดซ่อมไว้นาน 7-8 เดือนจึงซ่อมไม่เสร็จ
“เคยถามไปเจอคำตอบบ่ายเบี่ยง คนหาเช้ากินค่ำต้องตากแดดตากลมไปทำงาน ซ้ำยังต้องมาผ่อนวิญญาณรถ ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้เคยแจ้งไปที่เจ้าของอู่แล้วแต่ไม่สนใจ และยังเอารถไปจอดตากแดดตากลมไว้ วันนี้จึงต้องนัดรวมตัวกันมาที่นี่จนพบว่าในอู่รถยนต์แห่งนี้มีรถจอดอยู่ประมาณ 40-50 คัน” น.ส.ศุภรัตน์ กล่าว