ศูนย์ข่าวศรีราชา - หวิดถูกรุมประชาทัณฑ์! พม่าโหดใช้ไม้หน้าสามตีหัว มีดกระหน่ำแทงเจ้าของร้านขายของชำใน จ.ชลบุรี จนเสียชีวิต ญาติ และชาวบ้านเกือบ 300 คนรอยำขณะเดินทางมาทำแผนจนตำรวจต้องยกเลิก หวั่นคุมสถานการณ์ไม่ได้
จากเหตุการณ์ฆ่าชิงทรัพย์ในร้านขายของชำไม่มีเลขที่ ภายในซอยวัดหนองรี ม.4 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้ น.ส.อัญชลี แซ่เจี้ย อายุ 57 ปี เจ้าของร้านเสียชีวิตจากการถูกของแข็งตีที่ใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ซึ่งต่อมาตำรวจสืบสวนภาค 2 ได้ติดตามจับกุม นายเตท ไป่ อู อายุ 24 ปี ได้ที่ศรีรุ่งเลิศอพาร์ตเมนต์ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
พร้อมของกลางมีเงินสดประมาณ 20,000 บาท สร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ พระเลี่ยมทองของผู้ตาย สอบสวนให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง
วันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชลบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวผู้ต้องหาชาวพม่าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
โดยมีญาติของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านที่ทราบข่าวกว่า 300 คนเข้าล้อมบ้านเพื่อหวังจะรุมประชาทัณฑ์ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้านำผู้ต้องหาลงจากรถตู้ เนื่องจากหวั่นว่าจะเกิดเหตุร้าย เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อยกว่า
จึงยกเลิกการทำแผนประกอบรับคำรับสารภาพ และต้องนำผู้ต้องหากลับ สภ.เมืองชลบุรี ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่งและตะโกนด่าของชาวบ้านและญาติผู้ตาย
พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทองรอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชนทั่วไปเนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์และผู้ต้องหาเป็นชาวต่างด้าวที่มาอาศัยประเทศไทย ซึ่ง ผบ.ตร. สั่งการไปยังผู้บังคับการจังหวัดชลบุรีให้เร่งติดตามจับกุมให้ได้ ทุกฝ่ายจึงบูรณาการร่วมกัน ใช้เวลาไม่เกิน 8 ชั่วโมงจึงสามารถจับตัวได้ในทันที
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพผ่านล่ามว่าตกงานไม่มีเงินใช้ จึงก่อเหตุใช้ไม้ตีและใช้มีดแทงที่คอผู้เสียชีวิต ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุได้นำไปทิ้งที่ถังขยะแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา