ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- นายอำภอ เผยอ.ชุมพวง โคราช ท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี 7 ตำบลจมน้ำ โอดเป็นพื้นที่รับมวลน้ำมหาศาล 3 สาย ทั้งลำน้ำมาศ-น้ำมูล-น้ำเค็ม มาบรรจบกันทำให้ท่วมสูงและยังเพิ่มระดับต่อเนื่องระดมตั้งศูนย์รับอพยพ ห่วงท้ายน้ำจมบาดาลหลายวันเหตุผลักดันยาก ด้าน ปภ.สรุปอุทกภัยโคราชยังจม 17 อำเภอ
วันนี้ (4 ต.ค.) นายนิมิต ปัทมเจริญ นายอำเภอชุมพวง เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ชุมพวง จ.นคราชสีมา ว่า อำเภอชุมพวงเป็นพื้นที่รับน้ำจากแหล่งน้ำ 3 แหล่งใหญ่ คือ แม่น้ำมูล ลำน้ำเค็ม จาก อ.พิมาย และลำน้ำมาศ จาก อ.ลำปลายมาศ จ.บรีรัมย์ ไหลมาบรรจบกันและปีนี้ปริมาณน้ำของแต่ละลำน้ำมหาศาลมาก จึงไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำของอำเภอชุมพวง รวม 7 ตำบล จากทั้งหมด 9 ตำบล ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน
ล่าสุดวันนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตัวเมืองย่านเศรษฐกิจ เขตเทศบาลตำบลชุมพวง ที่ทำการส่วนราชการถูกน้ำท่วมสูงต้องปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด ทั้ง ที่ว่าการอำเภอชุมพวง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สถานีตำรวจภูธรชุมพวง โรงเรียนอนุบาลชุมพวง สำนักงานที่ดินอำเภอ และส่วนราชการอื่น ๆ ที่อยู่ในโซนเดียวกัน มีเพียงสำนักงานเกษตรและโรงพยาบาลชุมพวง ที่น้ำยังไม่ท่วม ถือเป็นสถานการณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี ของ อำเภอชุมพวง
นายนิมิต กล่าวอีกว่า การให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้น ทางอำเภอได้ดำเนินตามแผนเผชิญเหตุที่วางไว้ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือประชาชน และขณะนี้ทหารและหน่วยงานอื่น ๆ ได้ส่งกำลังเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะนี้ทุกพื้นที่ได้ตั้งพักพิงชั่วคราวขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้วัดที่ไม่ถูกน้ำท่วมเพื่อให้ประชาชนได้มีสถานที่พักและย้ายสิ่งของมาไว้ และบางส่วนที่ไม่ต้องการจะย้ายออกจากบ้านแม้จะมีน้ำท่วมได้ให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปแจกถุงยังชีพ ส่งน้ำส่งอาหารให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง และในส่วนใดที่ยังขาดแคลนหรือต้องการความช่วยเหลือ ทางอำเภอจะประสานทางจังหวัดเพื่อของบประมาณในการช่วยเหลือต่อไป
ขณะนี้เป็นห่วงพื้นที่ท้ายน้ำมากที่สุด เช่น ต.ประสุข ต.หนองหลัก และ อบต.ชุมพวง ซึ่งระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การระบายน้ำทำได้ค่อนข้างลำบาก เพราะการะบายน้ำจะต้องไปเจอกับเขื่อนที่เมืองยางก่อนไปไหลลงสู่ลำมูล ในช่วงการระบายน้ำอาจต้องใช้เวลาหลายวัน และระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
นายนิมิต กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะใช้เส้นทางประทาย-ชุมพวงขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนเพราะน้ำท่วมสูงมาก ส่วนพื้นที่เกษตร ขณะนี้ประเมินความเสียหายไม่ได้รวมถึงต้องสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะเสียหายเป็นจำนวนมาก
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา สรุปสถานการณ์สถานการณ์น้ำท่วมเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “โนรู” ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน –4ตุลาคม2565 ว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น จำนวน 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จักราช พิมาย สูงเนิน พระทองคำ เฉลิมพระเกียรติ ปักธงชัย คง ประทาย ลำทะเมนชัย แก้งสนามนาง ด่านขุนทด โนนสูง ห้วยแถลง ชุมพวง โนนไทยเมืองยาง และอำเภอหนองบุญมาก รวม 116 ตำบล1 เทศบาลนคร 605 หมู่บ้าน 4 ชุมชน
บ้านเรือนท่วมน้ำขัง จำนวน 3,224 หลัง วัด 11แห่ง รพ.สต. 1 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง ถนน 141สาย และโรงสูบน้ำ 1 แห่ง ความเสียหาย ของพื้นที่การเกษตรในเบื้องต้น ประมาณ 114,527 ไร่ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (นายดำรงเกียรติ จอมเกาะ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 6 ตำบลด่านจาก อำเภอโนนไทย พลัดตกจมน้ำเสียชีวิตคลองน้ำบ้านแฉ่ง ตำบลถนนโพธิ์)
สถานการณ์ปัจจุบัน (4ต.ค. 2565) คลี่คลายแล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอหนองบุญมากยังคงมีสถานการณ์จำนวน 17 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จักราช พิมาย สูงเนิน พระทองคำ เฉลิมพระเกียรติ ปักธงชัย คง ประทาย ลำทะเมนชัย แก้งสนามนาง ด่านขุนทด โนนสูง ห้วยแถลง ชุมพวง โนนไทยเมืองยาง และอำเภอหนองบุญมากอำเภอเมืองนครราชสีมา จักราช พิมาย สูงเนิน พระทองคำ เฉลิมพระเกียรติ ปักธงชัย คง ประทาย ลำทะเมนชัย แก้งสนามนาง ด่านขุนทด โนนสูง ห้วยแถลง ชุมพวง โนนไทย และอำเภอเมืองยาง รวม 114ตำบล / 1 ทน. 603 หมู่บ้าน 4 ชุมชน บ้านเรือน ถูกน้ำท่วม 3,210 หลัง วัด 11 แห่ง รพ.สต. 1 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง ถนน44 สาย และโรงสูบน้ำ 1 แห่ง และพื้นที่การเกษตร 114,527 ไร่