พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อยุธยา ทำหนังสือด่วนที่สุดขอให้ชลประทานพิจารณาเปิดประตูระบายน้ำช่วยประชาชนในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ห้องประชุมมหาธาตุ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายประทีป การมิตรี นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน. นายประพัน ตรีบุบผา ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือผ่านระบบ VDO Conference โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน
หลังเสร็จการประชุม นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมมือสนับสนุนช่วยเหลือในการเตรียมการป้องกันและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด และขอให้หัวหน้าหน่วยงาน นายอำเภอลงพื้นที่ไปเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง
สำหรับการระบายน้ำเข้าทุ่งรับน้ำทั้ง 7 ทุ่ง ได้แก่ ทุ่งบ้านแพน ทุ่งบางบาล ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งบางกุ่ม และทุ่งเขตติดต่อป่าโมก รองรับน้ำได้ 736 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุด จังหวัดได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมชลประทาน ให้พิจารณาเปิดประตูระบายน้ำ ตามการร้องเรียนจากราษฎรในพื้นที่อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ และอำเภอบางบาล เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ และขอให้กรมชลประทานทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่รับน้ำ
ปัจจุบัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 11 อำเภอ 107 ตำบล 598 หมู่บ้าน 29,795 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบรวม 2,566 ไร่ ได้แก่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอมหาราช และอำเภอวังน้อย
