เชียงใหม่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่รับตำแหน่งวันแรกลุยตรวจน้ำท่วมเขตตัวเมืองทันที สั่งจัดหน่วยจราจรน้ำคอยผันน้ำที่ไหลจากดอยสุเทพออกสู่คลองชลประทานแทน เพื่อไม่ให้มวลน้ำมีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจเขตตัวเมืองเชียงใหม่
ค่ำวันนี้ (1 ต.ค. 65) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนใหม่ ซึ่งเพิ่งเดินทางถึงเชียงใหม่เพื่อรับตำแหน่งวันแรก ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ บริเวณประตูระบายน้ำ ชุมชนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก และสี่แยกตลาดต้นพยอม ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้มวลน้ำมีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจเขตตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่, นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ในครั้งนี้ด้วย
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากตลอดทั้งวันของวันนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้มีบางจุดที่น้ำระบายไม่ทัน รวมถึงมีดินถล่มในเขตพื้นที่อำเภอต่างๆ เนื่องจากดินอุ้มรับน้ำไว้ไม่ไหว ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งการให้อำเภอต่างๆ ที่ประสบเหตุ ได้เร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วนแล้ว และในค่ำวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณชุมชนช่างเคี่ยน และบริเวณสี่แยกตลาดต้นพยอม ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำที่ไหลลงจากดอยสุเทพ หากมีฝนตกน้ำจะไหลผ่านเข้าสู่เขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้อาจส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ดังนั้น จึงได้มีการวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน เบื้องต้นจะคอยติดตามการพยากรณ์อากาศจากเรดาร์ว่าจะมีฝนตกลงมาในช่วงใด จากนั้น จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานร่วมกันเพื่อที่จะจัดหน่วยจราจรน้ำ เพื่อคอยผันน้ำที่ไหลลงมาจากดอยสุเทพให้ออกไปยังคลองชลประทานแทนการปล่อยไหลให้เข้าตัวเมือง แล้วให้บริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ เฉพาะในส่วนน้ำฝนที่ตกลงมาเพียงเท่านั้น เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ พร้อมทั้ง เตรียมเครื่องจักร อุปกรณ์ และกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ให้พร้อมสำหรับเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและไม่ให้มวลน้ำเหล่านี้เข้าไปสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในตัวเมืองเชียงใหม่อีกด้วย