ศรีสะเกษ - ประธานชุมชนหนองหมู ศรีสะเกษร่ำไห้ ถูกมวลน้ำลำห้วยสำราญท่วมถึงหลังคา พร้อมลูกบ้านอีกกว่า 100 หลังจมใต้น้ำเสียหายหมด ขอบคุณทุกส่วนราชการที่ช่วยเหลือดูแลเต็มที่
วันนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนหนองหมู ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นชุมชนมีบ้านเรือนของชาวบ้านอาศัยอยู่จำนวน 170 หลังคาเรือนและอยู่ติดกับลำห้วยสำราญ ปรากฏว่าน้ำจากลำห้วยสำราญได้ไหลทะลักเข้าไปท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านจมใต้น้ำ ชาวบ้านต้องพากันหอบข้าวของมีค่าหนีน้ำท่วมไปอยู่ริมถนนเฉลิมราชย์ 60 ปี ซึ่งเช้าวันนี้ นางพะเยาว์ โสดาลี ประธานชุมชนหนองหมู และนายกุมาร เหมือนคิด อายุ 46 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 321/125 ม.8 ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้พากันพายเรือเข้าไปดูบ้านของตนเอง เนื่องจากนับตั้งแต่น้ำท่วมชุมชนหนองหมู นางพะเยาว์ไม่มีเวลาเข้าไปดูแลบ้านของตนเอง เพราะ ต้องคอยประสานกับส่วนราชการและผู้ใจบุญที่ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้าน
เมื่อพายเรือเข้าไปในชุมชนพบว่าบ้านเรือนจำนวนมากถูกน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน บ้านหลายหลังถูกน้ำท่วมจนมองไม่เห็นหลังคา ซึ่งนายกุมารได้พายเรือไปดูบ้านของตนเองพบว่าน้ำท่วมถึงหลังคาบ้านขณะที่บ้านอีกหลังที่เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ เพื่อเก็บของต่างๆ หนีน้ำท่วม ปรากฏว่า น้ำท่วมทำให้ข้าวของเสียหายบางส่วน
นายกุมาร เหมือนคิด อายุ 46 ปี อาชีพ รับจ้างทั่วไป กล่าวว่า ตนกับครอบครัวขนข้าวของหนีน้ำท่วมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วช่วงที่น้ำเริ่มท่วม และได้สร้างที่เก็บของยกพื้นสูงเพื่อเก็บข้าวของต่างๆ รับน้ำท่วม แต่ว่า ทั้งบ้านและที่เก็บของน้ำท่วมเสียหายหมด ตนรู้สึกเสียใจแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพราะว่าอยู่ที่ตรงนี้จึงถูกน้ำท่วม ตนและครอบครัวไม่มีที่อยู่ จึงต้องอยู่ตรงนี้และถูกน้ำท่วมทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ เงินทองหามาได้ต้องใช้ดูแลครอบครัวและซ่อมแซมบ้านทำให้ตนและครอบครัวมีฐานะยากจนอย่างถาวร
ต่อมา นางพะเยาว์ โสดาลี ประธานชุมชนหนองหมู และนายกุมาร เหมือนคิด ได้พายเรือไปดูบ้านของนางพะเยาว์ ปรากฏว่าเมื่อนางพะเยาว์เข้าไปถึงบ้านพบว่าน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากได้ท่วมบ้านของนางพะเยาว์ถึงหลังคาบ้าน ส่วนบ้านอีกหลังหนึ่งที่อุตส่าห์เก็บออมเงินมานานหลายสิบปีเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา น้ำได้ท่วมจนมองไม่เห็นหลังคา ทำให้ นางพะเยาว์ถึงกับปล่อยเสียงร่ำไห้ออกมาด้วยความเศร้าเสียใจอย่างหนักที่เห็นบ้านของตนเองเป็นแบบนี้ ขณะที่บ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกน้ำท่วมถึงหลังคาบ้านทุกหลังเช่นกัน
นางพะเยาว์ โสดาลี ประธานชุมชนหนองหมู กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่เห็นบ้านของตนเองโดนน้ำท่วมพังเสียหายหมด ทำให้แทบสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะว่าเงินทองที่เก็บมานานหลายสิบปีนำเอามาสร้างบ้านอยู่กับลูก 3 คน ต้องมาถูกน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากท่วมบ้านและน้ำได้พัดบ้านพังเสียหายหมด ในชุมชนของตนมีจำนวน 170 หลังคาเรือน มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมถึงหลังคาบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งทางเทศบาลเมืองศรีสะเกษ นำโดยนายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ และคณะ ได้เข้ามาให้การดูแลช่วยเหลือชาวบ้านหนองหมูอย่างเต็มที่ทั้งด้านเต็นท์ที่พักอาศัย อาหารการกิน มุ้ง ยากันยุง เครื่องอุปโภคบริโภค
รวมทั้ง นางมัลลิกา วุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ นายคมป์ สังข์วงศ์ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ฝ่ายปกครอง จ.ศรีสะเกษ มูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน มูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ และผู้ใจบุญทุกคณะ ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านหนองหมูทุกด้านอย่างเต็มที่ ตนและชาวบ้านหนองหมูทุกคนต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง
