อุทัยธานี - ฝนหนักสะสมมาต่อเนื่อง เจ้าพระยาหนุนเพิ่ม เขื่อนวังร่มเกล้าพร่องน้ำรับ “โนรู”..ทำแม่น้ำสะแกกรังจ่อล้นฝั่ง เหลือ 22 ซม.ท่วมพื้นที่ย่านหน้าศาลากลางอุทัยฯ-ศาลา 8 เหลี่ยม วัดโบสถ์ โบราณสถานสำคัญสมัย ร.๕ เสี่ยงจม
หลังจากที่เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพายุ “โนรู” ที่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเวียดนาม ผ่าน สปป.ลาว เข้าไทย ซึ่งจะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะแถบภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ทำให้โครงการชลประทานอุทัยธานีต้องสั่งเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนวังร่มเกล้าลงสู่ท้ายเขื่อนอีกครั้ง
เนื่องจากฝนที่ตกสะสมมาก่อนหน้านี้ทำให้น้ำจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำแควตากแดดที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.สว่างอารมณ์ อ.ทัพทัน บริเวณเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า ทำให้ทางเขื่อนฯ ต้องพร่องน้ำเพิ่มเพื่อรองรับมวลน้ำระลอกใหม่จากอิทธิพลพายุโนรู
วันนี้ (28 ก.ย. 65) เขื่อนวังร่มเกล้าได้ยกประตูขึ้นหมดทั้ง 3 บาน ระบายน้ำลงท้ายเขื่อนด้วยอัตรา 154.98 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหนุนเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีมวลน้ำจากทางภาคเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ วัดอัตราไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C2 (เจ้าพระยา) นครสวรรค์ 2,329 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เป็นผลทำให้แม่น้ำสะแกกรังที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี มีระดับที่สูงขึ้นกว่าทุกวัน โดยระดับน้ำบริเวณหน้าศาลากลาง จ.อุทัยธานี +17.93 ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 0.22 เมตรเท่านั้น
ขณะที่บริเวณวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี พบว่ากระแสน้ำสะแกกรังได้เอ่อขึ้นท่วมฝั่ง เหลือเพียงไม่กี่ 10 เมตรก็จะท่วมบริเวณศาลา 8 เหลี่ยมที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ แล้ว และคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ บ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้ตลิ่งมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนได้ตลอดเวลา จึงได้มีคำประกาศเตือนการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์จากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด