ประจวบคีรีขันธ์ - ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ด่านสิงขร ติดตามความพร้อมของอาคารด่านพรมแดนสิงขร ที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่ทำงานของหน่วยงานภาครัฐในการเตรียมความพร้อมที่จะรองรับการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร
วันนี้ (23 ก.ย.) นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายคมริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคง และภาคเอกชนเดินทางลงพื้นที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามความพร้อมของอาคารด่านพรมแดนสิงขร ซึ่งขณะนี้ได้สร้างเสร็จแล้ว ทั้งเส้นทางการคมนาคม ลานจอดรถ ซึ่งจะใช้เป็นเป็นสถานที่ทำงานของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คือศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจพืช ด่านตรวจสัตว์น้ำ และเจ้าหน้าที่ต่างๆ จะต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 นี้ เนื่องจากอาคารแห่งนี้จะเป็นจุดผ่านเข้า และออกของรถบรรทุกสินค้า และบุคคลของทั้งไทย และพม่า
ปัจจุบัน การจุดขนถ่ายสินค้าต่างๆ ชั่วคราวอยู่บริเวณเขตโนแมนแลนด์ ซึ่งสินค้าที่มีการนำเข้ามาจากจังหวัดมะริด พม่ายังเป็นสัตว์น้ำต่างๆ และผลผลิตทางการเกษตรบางชนิดที่ได้รับการอนุญาตตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งหากมีการเปิดเต็มรูปแบบ ต่อไปการขนถ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจะใช้พื้นที่ลานจอดรถด้านล่างบริเวณอาคารด่านพรมแดนสิงขร เป็นสถานที่ขนถ่าย ส่วนสินค้าสัตว์น้ำยังคงใช้จุดเดิมไปก่อน ในส่วนการเข้าออกของบุคคล และยานพาหะต่างๆ จะต้องลงไปบริเวณอาคารด้านล่างตามขั้นตอนพิธีการทางศุลกากรที่กำหนดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การเข้าออกของบุคคลคงต้องรอทางพม่าอักครั้ง เนื่องจากยังมีประกาศอีกฉบับ เมื่อเดือน ก.ย. ของทางสถานทูตพม่า ที่ระบุเอาไว้ให้บุคคลเข้าออกทางอากาศเท่านั้น เพราะหากทางพม่ามีการเปลี่ยนแปลงการเข้าออก เพื่อการท่องเที่ยวฝั่งไทย เรามีความพร้อมเพราะมีส่วนราชการต่างๆ เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ณ อาคารด่านพรมแดนด่านสิงขร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาก่อนสถานการณ์โควิด-19 จุดผ่อนปรนพิเศษแห่งนี้มีมูลค่าการค้าในปี 2563 สูงถึง 1,400 ล้านบาท แบ่งเป็นนำเข้า 1,200 ล้าน ส่งออก 200 ล้าน แต่ล่าสุดเดือนสิงหาคม-กันยายน หลังกลับมาอนุญาตของถ่ายสินค้าชั่วคราว ทางศุลกากรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานให้ทราบว่ามีปริมาณการนำเข้า 144 ล้านบาท การส่งออกเพียง 9.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่
ซึ่งหากขั้นตอนการปฏิบัติ รายละเอียดต่างๆ และการประสนงานกับฝั่งพม่าต้องทำข้อตกลงร่วมกันด้วยว่าบุคคลพม่าจะข้ามาฝั่งไทยอยู่ได้กี่วัน มาได้ถึงพื้นที่ไหน ขณะนี้ค่อนข้างเกือบสมบูรณ์แล้วเนื่องจากมีข้อตกลงเดิมอยู่ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งทางจังหวัดพยายามที่จะเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ให้กลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าชายแดนของทั้งฝั่งไทยและพม่า
ด้านนายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนา การค้าการลงทุน ประจวบ มะริด กล่าวภายหลังได้รับทราบจากทางจังหวัดประจวบฯ ว่าจะมีการเปิดอาคารด่านพรมแดนด่านสิงขร ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการค้าชายแดนของทั้งไทยและพม่าเป็นอย่างมาก เท่าที่มีการติดต่อประสานงานกับทางสมาคมการค้าของทางมะริด ซึ่งทางนักธุรกิจทางจังหวัดมะริด รู้สึกดีใจเช่นกัน ส่วนในเรื่องบุคคลเข้าออกที่ยังติดขัดในเรื่องของประกาศของฝั่งพม่า เชื่อว่าหากพม่าพร้อมให้บุคคลเข้าออก และประกาศออกมาเป็นทางการ ฝั่งไทย หรือ จ.ประจวบฯ มีความพร้อมเดินทางเข้าออกได้ทันที
โดยผู้แม่ค้า พ่อค้าตลาดด่านสิงขร และนักธุรกิจที่นำเข้าส่งออกทั้งฝั่งไทย-พม่า หลังจากทราบข่าวว่าจะมีการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรอีกครั้งต่างรู้สึกดีใจ โดยกล่าวว่า วันหยุดเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อสินค้าทำให้เริ่มมีรายได้ช่วงวันหยุด 6-7 พันบาท ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม มีรายได้ถึง 2 แสนบาท ซึ่งหากเปิดได้จะส่งผลดีต่อการค้าชายแดน ฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามมาด้วย
