บุรีรัมย์ - น้ำมูลเอ่อท่วมนาข้าวเกษตรกร อ.คูเมือง บุรีรัมย์ เจ้าของนาต้องลงทุนจ้างชาวบ้านใช้กะละมังลอยคอเกี่ยวข้าวที่ออกรวงแต่ยังไม่สุกแก่เต็มที่หลังถูกน้ำเอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร หวังนำไปตากเก็บไว้บริโภคในครัวเรือน แต่หากปล่อยไว้จะเน่าเสียหายหมด ล่าสุดน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องหลากท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง
วันนี้ (22 ก.ย.) ชาวนาบ้านวังปลัด ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากน้ำมูลที่เอ่อท่วมนาข้าว บางรายต้องยอมควักเงินจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านรายละ 300 บาทต่อวัน นำกะละมังลอยคอเกี่ยวข้าวในนาที่ออกรวงแล้ว ถูกน้ำเอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร ถึงแม้ข้าวจะยังไม่สุกเต็มที่ แต่ก็จำเป็นต้องเกี่ยวหนีน้ำเพราะหากปล่อยไว้เกรงว่าจะจมน้ำเน่าเสียหาย เนื่องจากขณะนี้น้ำมูลหนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากมวลน้ำเหนือที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมา ได้หลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง จากผลกระทบดังกล่าวชาวนาก็ได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งเข้ามาสำรวจและให้ความช่วยเหลือด้วย
นายพิรัช นพพิบูลย์ อายุ 40 ปี ชาวนาบ้านวังปลัด ต.บ้านแพ อ.คูเมือง บอกว่า ตนทำนาอยู่บริเวณนี้ 2 ไร่ แค่เพียง 2 วันถูกน้ำมูลเอ่อเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร จึงจำเป็นต้องจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านมาช่วยเก็บเกี่ยวข้าวแม้จะยังไม่สุกเต็มที่ก็ตาม โดยต้องจ่ายค่าจ้างคนละ 300 บาทต่อวัน เนื้อที่ 2 ไร่ต้องใช้แรงงานคนรวม 9 คน ตอนนี้จ่ายค่าจ้างไปแล้วกว่า 5,000 บาท แต่หากน้ำไม่ท่วมเนื้อที่ 2 ไร่จ้างรถเกี่ยวเพียง 1,000 บาทเท่านั้น แต่จำเป็นต้องจ้างเกี่ยวเพราะลงทุนลงแรงไปแล้วหากปล่อยไว้คงถูกน้ำท่วมเน่าเสียหายทั้งหมด เพราะปีที่ผ่านมาเกี่ยวหนีน้ำไม่ทันได้ถูกน้ำท่วมเสียหายจนหมด
ส่วนข้าวที่เกี่ยวหนีน้ำครั้งนี้ก็ต้องนำไปตากให้แห้งก่อน แล้วลองสีดูว่าจะพอนำไปหุงบริโภคได้หรือไม่ หากบริโภคไม่ได้ก็คงต้องทำเป็นอาหารสัตว์แทน จากผลกระทบดังกล่าวก็อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาด้วย