ศูนย์ข่าวศรีราชา - รวบแล้ว 2 พี่น้องวางแผนร่วมชิงเงินบริษัทเกือบ 3.5 ล้านบาท ตำรวจบ้านบึง เตรียมแถลงข่าวพรุ่งนี้ เผยจับได้หลังศาลจังหวัดชลบุรีอนุมัติออกหมายจับเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พบพี่สาวคนร้ายคือพนักงานที่เข้าไปเบิกเงินจากธนาคารยอมรับหนี้สินเยอะ
จากเหตุการณ์คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ชวนทะเลาะคนขับรถตู้บริษัทที่เพิ่งเบิกเงินสดเกือบ 3.5 ล้านบาท จากธนาคารในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อเตรียมนำไปจ่ายเป็นค่าแรงให้พนักงาน โดยทำทีด่าทอเป็นชู้กับเมียจนเกิดเรื่องชกต่อยกัน กระทั่งสบโอกาสฉกเป้ใส่เงินในรถตู้สีขาวที่จอดอยู่ริมถนนภายในซอยราษฎร์อุทิศ เทศบาลเมืองบ้านบึง เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.ย.)
และช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานภาค 2 ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติม จนพบว่าคนร้ายน่าจะขับรถกระบะหลบหนีหลังนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งในป่าอ้อยริมถนนใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยพบว่าคนร้ายได้นำรถกระบะไปจอดเคลมในอู่ซ่อมรถประกันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี หลังก่อเหตุเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ประมาณ 2 ชั่วโมง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุในคดีได้แล้วทั้ง 2 รายคือ น.ส.ประภาพร บุญมีสนม พนักงานการเงิน อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้เบิกเงินสดจากธนาคาร และนายจตุพล บุญมีสนม อายุ 27 ปี ซึ่งสวมชุดไรเดอร์
โดยการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลจังหวัดชลบุรี อนุมัติออกหมายจับ และยืนยันว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายเป็นพี่น้องกัน โดย น.ส.ประภาพร ซึ่งเป็นพี่สาวยอมรับว่ามีหนี้สินจำนวนมากจึงร่วมกับน้องชายวางแผนก่อเหตุดังกล่าว
ขณะที่ข้อมูลอย่างละเอียดจะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.) เวลา 10.30 น.
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบทราบว่ารถกระบะที่คนร้ายใช้หลบหนีและนำไปเคลมที่อู่ประกันเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน งข 9234 ชลบุรี ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอนำรถเข้าเคลมซ่อมหลายจุด เมื่อ 3 เดือนก่อน และผู้ก่อเหตุยังขอให้คนในอู่พาไปส่งยังปากซอยหลังนำรถเข้าอู่เป็นที่เรียบร้อย
และจากการสอบถามคนในอู่ทราบว่า คนร้ายมีท่าทางร้อนรน ซึ่งเมื่อรู้ภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงเงิน 3.5 ล้านบาทคนในอู่ต่างรู้สึกตกใจ
และเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.1 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รอง ผกก.1 บก.สส.ภ.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค 2 ได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คนไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสดที่เหลือ จำนวน 3.2 ล้านบาทเพื่อถามหาว่าเงินส่วนที่หายไปถูกนำไปใช้จ่ายอะไร
และยังบอกอีกว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี