บุรีรัมย์ - สองผัวเมียสุดแสบทำทีขอตรวจเช็กกล่องรับสัญญาณทีวีคุณตาวัย 86 ชาวบุรีรัมย์ขณะอยู่บ้านคนเดียว ก่อนบอกเสียและระบบไฟฟ้าช็อตต้องเปลี่ยนใหม่ หลอกเอาเงินตาสูญ 5 พันบาทชิ่งหนีแต่ไฟใช้ไม่ได้ ตาโอดหลอกได้กระทั่งคนแก่ เผยเป็นเงินเบี้ยคนชราและรับจ้างจักสานเก็บไว้จ่ายดอกเบี้ยกองทุนหมู่บ้าน
วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านหนองจาก ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีสองผัวเมียมิจฉาชีพทำทีเข้าไปขอตรวจเช็กกล่องรับสัญญาณดาวเทียมภายในบ้าน ของตาวัย 86 ปีซึ่งอยู่ลำพัง พอเข้าไปดูก็หลอกตาว่าระบบไฟในบ้านช็อตต้องซ่อมและเปลี่ยนเบรกเกอร์ใหม่ แล้วเรียกเอาเงินจากคุณตา 6,000 บาท ตาบอกมีแค่ 5,000 บาทก็ทำเป็นใจดีลดให้ แต่พอสองผัวเมียออกจากบ้านไปไฟในบ้านกลับใช้ไม่ได้ ส่วนเบรกเกอร์ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนใหม่ยังเป็นอันเดิม เชื่อว่าเจตนามาหลอกคุณตา และคาดว่าอาจจะเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านคุณตาสมบูรณ์ นิมิตรประโคน อายุ 86 ปี ที่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 9 บ้านหนองจอก ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ คุณตาสมบูรณ์ก็ได้พาไปดูบริเวณกล่องควบคุมระบบไฟภายในบ้าน และกล่องรับสัญญาณทีวีที่มิจฉาชีพทำทีเข้าไปตรวจเช็กก่อนจะอ้างว่าไฟช็อตแล้วหลอกว่าจะซ่อมและเปลี่ยนเบรกเกอร์ให้ใหม่แต่ไม่ได้เปลี่ยน
พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าเมื่อหลายวันก่อนขณะตนเองอยู่บ้านคนเดียวก็มีรถกระบะสีเทาขับมาจอดหน้าบ้าน แล้วมีผู้ชายและผู้หญิงคาดว่าเป็นผัวเมียกันเดินเข้ามาขอดูกล่องรับสัญญาณดาวเทียม ซึ่งตอนนั้นตนบอกไปว่าหลานเพิ่งจะมาซ่อมให้เมื่อเดือนก่อนไม่ต้องดูหรอกเพราะทีวีก็ดูได้ปกติ แต่สองผัวเมียคะยั้นคะยอให้พาไปดู ตาจึงพาเข้าไปดูในบ้าน จากนั้นทำทีเช็กดูที่หน้าทีวี กล่องรับสัญญาณทีวี แล้วบอกว่ากล่องรับสัญญาณเสียต้องเปลี่ยนใหม่ ตาก็แปลกใจเพราะยังดูทีวีอยู่ทุกวัน
จากนั้นสองผัวเมียก็เดินไปเปิดดูกล่องควบคุมระบบไฟ แล้วบอกว่าสายไฟที่เชื่อมต่อกันมันช็อต ต้องเปลี่ยนเบรกเกอร์ใหม่ โดยบอกว่าถ้าเปลี่ยนสองอย่างรวมกันก็คิดราคา 6,000 บาท แต่ตาบอกว่าไม่มีเงินถึง 6,000 หรอก แล้วล้วงเงินในกระเป๋าเสื้อออกมาให้นับ สองผัวเมียก็เอาไปบอกว่า 5,000 บาท บอกว่าเดี๋ยวไปซื้ออุปกรณ์ทั้งสองอย่างมาเปลี่ยนใหม่แล้วก็ขับรถหายไปเลย พอสองผัวเมียขับรถออกไปไฟในบ้านก็ใช้ไม่ได้ ต้องให้หลานมาซ่อมให้
“เสียใจไม่คิดว่าจะมาหลอกคนแก่ได้ลงคอ เพราะเงินที่สองผัวเมียเอาไปเป็นเงินเบี้ยผู้สูงอายุ และเงินที่รับจ้างจักสานที่พอมีแรงทำได้ ตั้งใจว่าจะเก็บไว้จ่ายดอกเบี้ยกองทุนเงินล้านหมู่บ้าน ตอนนี้ไม่เหลือแล้วก็คงต้องหาหยิบยืมคนอื่นไปจ่ายก่อน” คุณตากล่าว