พระนครศรีอยุธยา - เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำทะลุ 1,800 ลบ.ม./วินาที กรุงเก่ายังอ่วม ขึ้นระลอก 2 ชาวบ้านริมตลิ่งลำบากนับเดือน พายเรือเข้าออก ยังต้องกลัวรถที่มาจอดไว้บนถนน
สถานการณ์น้ำวันนี้ (14 ก.ย.) ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่านสถานี C13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,848 ลบ.ม./วินาที วานนี้ 1,799 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้น 49 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่สถานี C35 บ้านป้อม พระนครศรีอยุธยา ระดับตลิ่ง 4.35 ม. ระดับน้ำ 4.36 ม. วานนี้ 4.25 ม. ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 11 ซม.
ปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไหลผ่านสถานี S.28 อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 307 ลบ.ม./วินาที วานนี้ 338 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำระบายลดลง 31 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่สถานี S.26 (เขื่อนพระรามหก) อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบาย 513 ลบ.ม./วินาที ระดับตลิ่ง 8 ม. ระดับน้ำ 5.98 ม. วานนี้ 5.98 ม. ระดับน้ำคงที่ สถานี S.5 (สะพานปรีดี-ธำรง) อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรียุธยา ระดับตลิ่ง 4.70 ม. ระดับน้ำ 3.51 ม. วานนี้ 3.42 ม. ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 9 ซม.
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่จำนวนมาก พบว่า หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา มีการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนอยู่แล้ว ตอนนี้ 1-2 เมตรในบางจุด ตอนนี้มีปริมาณสูงขึ้น และสูงขึ้นเร็วกว่าตอนแรกที่ลดลงไปทำให้เป็นการถูกน้ำท่วมระลอกที่ 2 เพียงคืนเดียวน้ำขึ้นสูงกว่า 30 เซนติเมตร ชาวบ้านในพื้นที่ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 1 เดือน ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ต้องนำมาจอดไว้บนถนน
นายสุนทร อัตตะสาระ อายุ 58 ปี ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ตอนนี้น้ำด้านในน้ำท่วมหมดแล้ว สูงเท่าหน้าอก ความเป็นอยู่ลำบาก ต้องใช้เรืออย่างเดียว รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ต้องเอามาจอดไว้ข้างนอก ซึ่งน้ำท่วมในพื้นที่มาเป็นเดือนแล้ว
