นครพนม - พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลตำบลศรีสงคราม จ.นครพนม โอดครวญฝนตกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในหลายจังหวัดเกือบทั่วประเทศ ทำให้พื้นที่เพาะปลูกผักถูกน้ำท่วมแล้วหลายพื้นที่ พืชผักสดทุกชนิดที่ปลูกไว้เน่าตาย ผักหลายชนิดเริ่มขาดแคลน ราคาแพงขึ้นเท่าตัว
วันนี้ (14 ก.ย.) ที่จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาพืชผักชนิดต่างๆ ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลศรีสงคราม หลังจากในหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมกระจายในหลายจังหวัด รวมถึงพื้นที่ปลูกผักต่างๆ อีกด้วย ทำให้ราคาผักหลายชนิดเริ่มขาดแคลนและปรับราคาสูงขึ้น ตั้งแต่ 20%-80% บางชนิดปรับขึ้นถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
นายปรีชา แก้วปีลา อายุ 55 ปี พ่อค้าขายผักในตลาดสดแห่งนี้บอกว่า ในช่วงหน้าฝน ผักหลายชนิดปลูกไม่ค่อยได้ผล และยังมีพื้นที่ปลูกผักในหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมทำให้ราคาผักปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผักชี ซึ่งปลูกยากอยู่แล้วในช่วงหน้าฝน มีการปรับราคาสูงจากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 130 บาท ผักขึ้นฉ่ายจากกิโลกรัละ 80 ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 180 บาท ต้นหอม กิโลกรัมละ 80 บาท ปรับเป็นกิโลกรัมละ 120 บาท
เช่นเดียวกับผักคะน้าจากกิโลกรัมละ 30 บาทขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท กะหล่ำปลีจากกิโลกรัมละ 30 บาท เป็นกิโลกรัมละ 60 บาท ต้นหอมกิโลกรัม 40 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท ผักกาดขาวปลีขึ้นไปที่กิโลกรัมละ 40 บาท ผักบุ้งกิโลกรัมละ 40 บาท
“เฉลี่ยแล้วพืชผักในตลาดสดเทศบาลตำบลศรีสงคราม แพงขึ้นกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งราคาพืชผักที่นำมาขายส่งให้ช่วงนี้ ทุกชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกชนิด ตั้งแต่ 20% ไปจนถึงเท่าตัว และไม่ค่อยมีมากเหมือนเมื่อก่อนที่น้ำยังไม่ท่วม” พ่อค้าผักสดตลาดศรีสงครามระบาย และบอกอีกว่า
เมื่อรับมาแพงขึ้น ทำให้ต้องขยับราคาขายสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่อราคาพืชผักแพงขึ้น ลูกค้าก็จะซื้อในปริมาณที่ลดลง จากที่เคยซื้อเป็นกิโลกรัม ก็ลดลงเหลือครึ่งกิโลกรัม หรือเคยซื้อเป็นกำขนาดใหญ่ ได้ขอแบ่งซื้อเพียงครึ่งกำ
ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกค้าประจำทั้งสิ้น จึงต้องยอมแบ่งขายเท่าที่ลูกค้ามีกำลังซื้อดีกว่าปล่อยให้เน่าเสีย