xs
xsm
sm
md
lg

อ้างโดนจับรุกป่าถี่ตั้งแต่ปี 58! “ชาวม้งทับเบิก” ชูธงเป็น “นิคมฯ ชาวเขา” ปลดแอกพ้น พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบูรณ์ - ตีแผ่ปมเหตุ..ชาวม้งภูทับเบิกชูธงขอเป็นเขตนิคมฯ ชาวเขา-ปลดแอกที่ดินทับเบิกพ้น พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ปิดถนนขวางคณะ จนท.ตรวจป้ายยึดรีสอร์ตออกจากพื้นที่ หลังโดนจับบ่อยครั้งตั้งแต่ปี 58 แถมล่าสุด 12 รีสอร์ตรายใหม่ส่อผิดอีก


เหตุการณ์เจ้าของรีสอร์ตชาวม้งภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นำรถกระบะจอดขวางบนถนนหน้ารีสอร์ต ขวางรถของคณะนายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ และ กอ.รมน.พช. ปกครอง อ.หล่มเก่า, พม.(นิคมชาวเขา) กว่า 20 คน ที่เดินทางขึ้นไปตรวจ “ป้ายยึดอายัดรีสอร์ต” บริเวณหมู่ 8 บ้านเนิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า ไม่ให้ออกจากพื้นที่ตั้งแต่ 15.45-21.40 น. วันที่ 12 ก.ย. 65 ที่ผ่านมานั้น

เบื้องต้นมีรายงานว่าสาเหตุที่ทำให้เจ้าของรีสอร์ตชาวม้งภูทับเบิกไม่พอใจนำรถออกมาจอดขวางถนน เพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำ ”ป้ายแดง” ระบุข้อความ..พื้นที่บริเวณนี้ได้ถูกตรวจยึดดำเนินคดีแล้ว บริเวณป่าน้ำเพียงดิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า เนื้อที่ 0-1-94 ไร่ ดำเนินคดีอาญา 220/2565 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2565 สภ.หล่มเก่า ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่หรือกระทำด้วยประการใด หากฝ่าฝืนจะมีความผิดทางกฎหมาย..ติดยึดหน้ารีสอร์ตดังกล่าว ทั้งยังตรวจสอบรายชื่อและพิกัดรีสอร์ตอีก 12 ราย ที่เข้าข่ายเป็นผู้บุกรุกใหม่

ซึ่งแม้นายทรงศักดิ์ ผอ.สำนัก 4 กรมป่าไม้ ชี้แจงว่า จนท.ป่าไม้มาตรวจสอบรีสอร์ต 12 แห่งนี้ เนื่องจากเป็นรายใหม่ และก็มีชื่ออยู่ในรีสอร์ต 300 กว่ารายที่จดแจ้งขึ้นทะเบียนไว้กับทางอำเภอ และยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ โดยเตรียมจะนำเข้าสู่การแก้ปัญหาร่วมกับทาง พม.

แต่ผู้ประกอบการชาวม้งเห็นแย้ง..และยืนยันไม่ยุติการปิดถนน ปล่อยทอดเวลาจอดรถขวางถนนออกไปจนถึงกลางดึก โดยบอกเพียงว่าให้รอผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 มาสรุปข้อเรียกร้อง

ต่อมา (20.00 น.เศษ 12 ก.ย. 65) นายจำเนียร โฉมงาม ที่ปรึกษากฎหมายชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง พร้อมนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 และชาวม้งภูทับเบิก จำนวนหนึ่งร่วมประชุมชี้แจงกับ จนท.ป่าไม้, ฝ่ายปกครอง, กอ.รมน., ตร.สภ.หล่มเก่า ที่ร้านนิตยารีสอร์ต หมู่ 8 บ้านทับเบิก


ประเด็นหลักๆ ที่ทนายความและชาวม้ง ยึดถือคือ ที่ดินภูทับเบิกนั้นเป็นที่ดินของนิคมสงเคราะห์ชาวเขา ตามมติ ครม. 2509 ที่ให้ยกเลิกผืนป่า สามารถครอบครองทำประโยชน์ได้ เพราะไม่ใช่ที่ป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484

แต่ จนท.ป่าไม้ยืนยันว่ากรมประชาสงเคราะห์ไม่สามารถจัดสรรที่ดินในนามนิคมสงเคราะห์ชาวเขาได้ จึงได้มอบที่ดินคืนกลับให้กรมป่าไม้ไปดูแลแทน ดังนั้นภูทับเบิกจะต้องอยู่ภายในกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เพราะไม่สามารถจัดตั้งนิคมสงเคราะห์ชาวเขาได้

ประเด็นนี้..เป็นที่ถกเถียงกันนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่จบ ซึ่งจะต้องมีเวทีระดับใหญ่ เพื่อชี้แจงและนำหลักฐานมาตีแผ่สู่สาธารณชน เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างคนพื้นราบกับคนบนภูทับเบิก

ซึ่งนายจำเนียรถามลั่นกลางที่ประชุมถึง นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ และ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป.4 กอ.รมน. ว่า อยากพูดคุยด้วย จะถามให้ชัดๆ ว่าสภาพพื้นที่ภูทับเบิกยังคงมีสถานะเป็นป่าหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐได้จับกุมดำเนินคดีกลุ่มรีสอร์ตภูทับเบิกอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ถึง 30 สิงหาคม 65 มีตรวจยึดดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ จำนวน 87 คดี ประกอบด้วย

1. การตรวจยึดดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 “ในเขต“ จัดตั้งนิคมสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ (เดิม) และในเขตอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แยกเป็น
1) ตรวจยึดดำเนินคดี จำนวน 74 คดี เนื้อที่ 138.01 ไร่
2) สถานะทางคดี - อยู่ชั้นพนักงานสอบสวน จำนวน 9 คดี เนื้อที่ 6.93 ไร่
- อยู่ชั้นอัยการ จำนวน 9 คดี เนื้อที่ 12.375ไร่
- อัยการสั่งไม่ฟ้อง จำนวน 16 คดี เนื้อที่ 35.77 ไร่
- อัยการสั่งงดการสอบสวน จำนวน 1 คดี เนื้อที่ 57 ไร่
- คดีถึงที่สุด จำนวน 39 คดี เนื้อที่ 81.99 ไร่
3) การใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค. พ.ศ. 2559
รื้อถอนเสร็จสิ้นทั้งหมด จำนวน 42 ราย
รื้อถอนตามคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 จำนวน 38 ราย
รื้อถอนเอง จำนวน 4 ราย


2. ตรวจยึดดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 “นอกเขต” อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 โดยดำเนินคดี จำนวน 13 คดี เนื้อที่ 41.64 ไร่ แยกเป็นอัยการสั่งงดการสอบสวน จำนวน 2 คดี เนื้อที่ 6.22 ไร่ คดีถึงที่สุด 11 คดี เนื้อที่ 35.42 ไร่

แหล่งข่าวระบุว่า การฟ้องดำเนินคดีแต่ละครั้งจะต้องใช้ทนาย และมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นทันทีที่ 'ป้ายอักษรแดงของกรมป่าไม้' ถูกนำมาติดหราหน้ารีสอร์ตภูทับเบิก จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการรีสอร์ตชาวม้งภูทับเบิกไม่พอใจ เพราะถูกจับกุมอยู่บ่อยครั้ง ทั้งๆ ที่มีการระบุเขตป่า 2484 มีพื้นที่เพียง 7,000 ไร่

ฉะนั้น ชาวม้งภูทับเบิกจึงพยายามชูธงต่อสู้ว่า ผืนดินที่ตั้งรีสอร์ตจะต้องไม่อยู่ในเขตป่า จะต้องอยู่ในเขตนิคมสงเคราะห์ชาวเขาแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น