เพชรบูรณ์ - กลุ่มเจ้าของรีสอร์ตชาวม้งอ้างกลัว จนท.ทุบรื้อสิ่งปลูกสร้าง ยังคงจอดรถคากลางถนนขวางคณะป่าไม้ลงจากภูทับเบิกตั้งแต่ 3 โมงกว่าจนค่ำ ต้องขอฝ่ายปกครอง-ตำรวจหล่มเก่าเจรจาเปิดทาง ล่าสุด (19.30 น.) รอ ผญบ.เคลียร์
ความคืบหน้ากรณีเจ้าของรีสอร์ตชาวม้งนำรถกระบะจอดขวางบนถนนหน้ารีสอร์ตบนภูทับเบิก ทำให้รถของคณะนายทรงศักดิ์ กิตติธนากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ และ กอ.รมน.พช. ปกครอง อ.หล่มเก่า, พม.(ศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาเดิม) ที่เดินทางขึ้นไปตรวจป้ายยึดอายัดรีสอร์ต บริเวณหมู่ 8 บ้านเนิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ออกจากพื้นที่ไม่ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.45 น. วันนี้ (12 ก.ย. 65)
ล่าสุดจนถึงเวลาประมาณ 18.30 น.เศษ กลุ่มเจ้าของรีสอร์ตชาวม้งบนภูทับเบิกยังไม่ยอมย้ายรถกระบะที่นำมาจอดขวางถนน ขณะที่ ผอ.สำนัก 4 กรมป่าไม้ ได้ประสานขอกำลังนายอำเภอหล่มเก่า-รอง ผกก.สภ.หล่มเก่า เดินทางเข้าเจรจาเปิดทางให้คณะเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ กลุ่มชาวม้งที่มาร่วมปิดทางได้ส่งเสียงภาษาถิ่น บอกไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ขึ้นมาสำรวจรีสอร์ตช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา อ้างว่าจะนำรายชื่อรีสอร์ต จำนวน 12 ราย บรรจุเป็นกลุ่มที่เข้าข่ายบุกรุกก่อสร้างใหม่ ทำให้เกรงว่าจะถูกทุบรื้อ
อย่างไรก็ตาม หลังรอง ผกก.สภ.หล่มเก่าเข้าเจรจา กลุ่มชาวม้งยินยอมนำรถกระบะที่จอดขวางทางออกจำนวน 2 คัน แต่ยังเหลือรถอีก 1 คันจอดคาไว้บนถนน ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อให้นายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านเนิน ต.บ้านเนิน มาช่วยเจรจา
นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผอ.สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า ล่าสุดจนถึงทุ่มเศษยังคงอยู่ระหว่างรอเจรจากับทางผู้ใหญ่บ้าน อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อเสนอใดๆ มาตอนนี้ ระหว่างเจรจาเขาไม่ยอมฟัง เขาบอกเพียงว่าวานนี้ (11 ก.ย.) มี จนท.มาตรวจสอบพื้นที่ ระบุว่ามีรายชื่อรีสอร์ต 12 แห่งเป็นรายใหม่ ซึ่งรายชื่อรีสอร์ตดังกล่าวนั้นก็มีชื่อรวมอยู่ในรีสอร์ตราว 300 กว่ารายที่จดแจ้งขึ้นทะเบียนไว้กับทางอำเภอ โดยยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ เพราะจะนำเข้าสู่การแก้ปัญหาร่วมกับทาง พม.
ผอ.สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลกกล่าวอีกว่า ลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้เนื่องจากทางผู้บังคับบัญชาสั่งการว่ามีรีสอร์ตรายใหม่จำนวนมากและทางผู้ว่าฯ ก็สั่งการให้ทางป่าไม้ประสาน พม.เพื่อคัดกรองผู้ประกอบการรายเก่ากับรายใหม่ เนื่องจากทางเราไม่มีรายชื่อจึงมาประชุมกับทาง พม.เพชรบูรณ์ และปลัดอำเภอ รวมทั้งทาง อบต. เพื่อสแกนแยกผู้ประกอบการเก่าออกจากรายใหม่ซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่และมาบุกรุกใหม่ เพื่อจะดำเนินคดีตรงนี้ก่อน