ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สำเร็จแล้ว ปฏิบัติการพาโขลงช้างป่านับร้อยกลับทับลาน พบร่องรอยช้างส่วนใหญ่ที่เหลือเดินกลับเข้าสู่ป่าเขตอุทยานฯ ทับลานหมดแล้ว แต่ยังวางกำลัง จนท.ไว้เฝ้าจุดที่คาดว่าช้างอาจกลับมาอีก พร้อมเตรียมวางแผนการป้องกันปัญหาช้างป่ามาทำลายพืชผลชาวบ้าน ทั้งเร่งด่วนและระยะยาว ระบุการรวมตัวของโขลงช้างป่านับร้อยตัวเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ปฏิบัติการพาโขลงช้างป่าทับลานนับร้อยตัวที่พากันมาอาศัยอยู่ภายในบริเวณป่าชุมชนเขาประดู่ที่ตำบลจระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ห่างจากแหล่งชุมชนประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อให้กลับเข้าสู่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเข้าสู่วันที่ 5 แล้วก็ยังไม่สามารถที่จะพาช้างที่มีนับร้อยตัวกลับเข้าสู่ป่าได้ทั้งหมด แต่ทางนายประพัฒน์พงษ์ สุขุประการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ยืนยันว่า จากการปฏิบัติการเมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถพาช้างกลับเข้าสู่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลานซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่โขลงช้างรวมตัวกันประมาณ 5 กิโลเมตรได้แล้วจำนวน 54 ตัว และยังคงมีส่วนหนึ่งที่อาจยังคงหลับซ่อนอยู่ในบริเวณจุดเดิม
ล่าสุดวันนี้ทาง นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี พร้อมด้วย นายประพัฒน์พงษ์ สุขุประการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ทำการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานเริ่มปฏิบัติการใหม่อีกครั้งตั้งแต่ช่วงเช้า โดยกระจายกำลังกว่า 40 นาย ล้อมรอบจุดที่คาดว่าช้างยังหลบซ่อนตัวอยู่ก่อนใช้โดรนจับภาพความร้อนขึ้นบินสำรวจและระบุจุดซ่อนตัวของช้างป่า ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลา 14.30 น. ก็ไม่พบตัวช้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประเมินว่าช้างอาจหวาดระแวงและพากันหลบซ่อนตัวในป่าทึบ ประกอบกับเป็นช่วงเวลากลางวันอีกทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่อยู่ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้โดรนไม่สามารถจับภาพช้างป่าได้
จึงให้เจ้าหน้าที่ทุกจุดเข้าทำการสแกนพื้นที่โดยรอบทั้งหมด จนกระทั่งไปพบร่องรอยโขลงช้างป่าจำนวนมากลงจากเขาที่มีลักษณะค่อนข้างสูงชัน จึงติดตามร่องรอยไปและพบว่าช้างส่วนที่เหลือส่วนใหญ่กลับเข้าสู่ป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลานแล้ว
จากนั้นทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมทีมร่วมปฏิบัติการได้ร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติภารกิจว่าช้างทั้งหมดซึ่งคาดว่าจะมีมากกว่า 100 ตัว ได้กลับเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติทับลานเกือบทั้งหมดแล้ว จึงได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกปฏิบัติการ แต่ยังคงวางกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งไว้คอยเฝ้าจุดที่คาดว่าช้างอาจจะกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้งเพื่อความมั่นใจของประชาชน
หลังจากนี้ทางนายอำเภอครบุรีจะได้เชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้าร่วมประชุมหารือวางแผนการป้องกันปัญหาช้างป่าออกมาทำลายผลผลิตของชาวบ้านทั้งในกรณีเร่งด่วน ซึ่งอาจต้องจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือมาแจ้งเตือนและป้องกันไม่ให้ช้างกลับเข้าไปสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ทำกินของชาวบ้าน และการจัดการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทุกคนเห็นตรงกันว่าการรวมตัวของโขลงช้างนับร้อยตัวครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน และเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำอย่างยิ่ง