ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูผาม่านคุมตัว “เสี่ยอั๋น” อายุ 40 ปี ที่พร้อมแฟนสาวสอบปากคำเครียดหลายชั่วโมง หลังตกเป็นผู้ต้องหากระหนํ่ายิงหนุ่มวัย 27 ปีชู้รักแฟนสาวดับคาอ่างจากุซซีในห้องพักรีสอร์ตดัง ด้านครอบครัวผู้ตายเชื่อลูกชายถูกหญิงสาวลวงไปฆ่า
จากกรณีมีหนุ่มใหญ่บุกยิงชู้รักของแฟนสาวดับคาอ่างจากุซซีในรีสอร์ตหรูในพื้นที่ ต.ภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ก่อนขับรถหลบหนีไปพร้อมกับแฟนสาว แต่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวทั้งคู่ได้ที่บริเวณทางหลวงเกาะคา ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เมื่อช่วงค่ำวานนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (9 ก.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรภูผาม่าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจ สภ.ภูผาม่าน ควบคุมตัวนายรุ่งโรจน์ เทียนย้อย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/31 หมู่ 9 ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร มาที่ สภ.ภูผาม่าน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมแพ เลขที่ จ.90/2565 ลงวันที่ 8 กันยายน 2656 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ พร้อม น.ส.เบญจมาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม
นายรุ่งโรจน์ เทียนย้อย หรือ “เสี่ยอั๋น” ผู้ต้องหา กล่าวสั้นๆ หลังลงจากรถตู้ตำรวจกองปราบฯ ว่ายังไม่ขอตอบปมการก่อเหตุในครั้งนี้ แล้วเดินเข้าห้องสอบสวน ให้ปากคำด้วยอาการเคร่งเครียด ต่อมาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ระหว่างพักว่าขอให้การในชั้นศาล ยืนยันยังไม่ได้เลิกกัน มีทะเบียนสมรส
ด้าน น.ส.เบญจมาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี แฟนสาวนายรุ่งโรจน์ที่เปิดห้องพักกับผู้ตาย เปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ตายแต่ไม่ถึงขั้นสนิทเป็นคนรู้ใจ ผู้ก่อเหตุเป็นคนขี้หึง เคยก่อเหตุทำร้ายน้องชายตนมาแล้ว ตนยืนยันไม่ได้เปิดห้องให้นายรุ่งโรจน์ เข้ามาก่อเหตุ ไม่รู้ว่าเขามาพักที่นี่ และไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมาก่อเหตุในครั้งนี้
พนักงานสอบสวนนายหนึ่งระบุว่า ภายหลังสอบสวนยังไม่แน่ใจว่าจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ เนื่องจากเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเสร็จสิ้น เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน ควบคุมตัวส่งฟ้องฝากขังดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายดำรงค์ พ่วงนวม อายุ 56 ปี พ่อของนายยุทธภัณฑ์ พ่วงนวม อายุ 27 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิต เดินทางมาติดต่อรับใบมรณบัตรลูกชายที่ สภ.ภูผาม่าน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกชายเป็นคนดี เป็นคนขยันทำงาน ไม่เกเร ไม่ควรจะต้องมาถูกยิงแบบนี้ ตนไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน ทราบว่าเพิ่งรู้จักคบหากันได้ไม่นาน ตอนนี้เชื่อว่าผู้หญิงน่าจะมีส่วนรู้เห็นในการลวงลูกชายของตนมาถูกยิงในครั้งนี้อย่างแน่นอน ผู้ก่อเหตุมาเปิดห้องพักติดกันได้อย่างไร
ตอนนี้อยากเจอหน้าผู้หญิงคนนี้มาก อยากจะถามทำไปทำไม ลวงลูกชายมาฆ่าทำไม ทำไมไม่พูดคุยกันก่อน ส่วนลางสังหรณ์อื่นๆ ไม่มี ไม่เคยคิดว่าลูกชายต้องมาตายแบบนี้ หลังรับศพที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ วันนี้จะได้นำกลับบ้านบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดทุ่งยางใหญ่ บ้านสวน ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย ต่อไป
