กาญจนบุรี - นายอำเภอสังขละบุรี ร่วมกับนายก อบต.ไล่โว่ และหัวหน้าเขตทุ่งใหญ่นเรศวรฯ เดินลุยสำรวจปรับปรุงเส้นทาง ช่วงบ้านสาละวะ-บ้านทิไล่ป้า-บ้านจะแก ระยะทางกว่า 30 กม. เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน คาดเริ่มดำเนินการได้ต้นปีหน้า
จากกรณีที่องค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้จัดทำโครงการซ่อมแซมเส้นทางตรวจการณ์ ระหว่างบ้านสาละวะ หมู่ 4 และบ้านทิไล่ป้า หมู่ 5 ต.ไล่โว่ ความกว้าง 3 เมตร ยาวระยะทาง 7 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่เอง ซึ่งโครงการดังกล่าวได้มีหนังสือไปถึงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อขอให้อนุญาตให้ อบต.ไล่โว่เข้าดำเนินการ
ต่อมา วันที่ 17 พ.ค.65 นายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้มีหนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ ทส.0909.202/9754 เพื่อแจ้งให้นายก อบต.ไล่โว่ ทราบว่า กรมอุทยานฯ อนุญาตให้ อบต.ไล่โว่ ดำเนินโครงการดังกล่าวได้ แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ อบต.ไล่โว่ จะต้องรายงานให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกให้ทราบ
ล่าสุด ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ย.65 ที่ผ่านมา นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี รวมทั้งนายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ และนายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางที่จะดำเนินการซ่อมแซม ด้วยการเดินเท้าสำรวจ เริ่มจากบ้านสาละวะ ไปบ้านทิไล่ป้า เป็นระทางกว่า 14 กิโลเมตร โดยตลอดเส้นทางกว่า 14 กิโลเมตรที่เดินสำรวจนั้นจะต้องเดินผ่านลำห้วยหลายสาย รวมทั้งภูเขาที่สูงชัน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาเดินสำรวจถึง 3 วัน จึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยภายหลังว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอำเภอสังขละบุรี โดยเฉพาะโซนพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐจะไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งมันมีความจำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับด้านการสาธารณสุข และด้านการศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาเวลาประชาชนเจ็บไข้ได้ป่วย หรือมีเหตุฉุกเฉินที่จำเป็น แต่ประชาชนไม่สามารถออกไปพบหมอได้ด้วยตนเอง และบางครั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปไม่ทันเวลา อาจจะทำให้เกิดการสูญเสีย และที่ผ่านมาได้เกิดการสูญเสียระหว่างทางมาแล้วหลายครั้ง ส่วนด้านการศึกษา โดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.จะเป็นช่วงฤดูน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมทำให้ประชาชน รวมทั้งนักเรียนนักศึกษาที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้เลยเนื่องน้ำท่วมจนถูกตัดขาดออกไปจากโลกภายนอก
ดังนั้น จึงถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทาง อบต.ไล่โว่ ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินโครงการซ่อมแซมถนน และการเดินทางมาในครั้งนี้ ตนร่วมกับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และนายก อบต.ไล่โว่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ออกเดินสำรวจเส้นทางที่จะมีการปรับปรุงซ่อมแซมหลังจากหมดฤดูฝนนี้
ด้านนายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เปิดเผยว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อสำรวจเส้นทางในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ซึ่งเป็นเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในพื้นที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมากันอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าเส้นทางที่เดินเข้ามาเป็นเส้นทางที่ยากลำบากพอสมควร เนื่องจากช่วงฤดูฝนของทุกปี ปริมาณน้ำฝน รวมทั้งปริมาณน้ำในลำห้วยจะสูงขึ้นทำให้เส้นทางที่ใช้สัญจรไปมาเกิดการชำรุด จึงต้องมีการซ่อมแซมปรับปรุงเส้นทางอยู่ตลอดเวลา
เส้นทางเส้นทางนี้มีความจำเป็นมากกับชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางผ่านเข้าออก เช่น กรณีเกิดความจำเป็นจะต้องส่งผู้ป่วยออกไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอสังขละบุรี นั้นจะทำอย่างไรให้เกิดความรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้รับอันตรายจนเกิดการสูญเสีย เชื่อว่าหากโครงการซ่อมแซมปรับปรุงเส้นทางที่ใช้สัญจรไปมาแล้วเสร็จ จะทำให้ชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มีความสะดวกขึ้น และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่เองจะสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้ด้วย
นายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตทุ่งใหญ่นเรศวรฯ เปิดเผยว่า การเข้ามาสำรวจเส้นทางในรอบนี้เราเริ่มจากเส้นทางบ้านสาละวะ ไปบ้านทิไล่ป้า และบ้านจะแก ระยะทางรวมประมาณกว่า 30 กิโลเมตร สำหรับรูปแบบซ่อมแซมปรับถนนตามที่ อบต.ไล่โว่ได้วางแผนเอาไว้นั้น จะมีลักษณะภูมิประเทศต่างกัน เช่น บริเวณพื้นที่ราบ จะทำในรูปแบบถนนลูกรังอัด ส่วนที่เป็นพื้นที่ที่เป็นที่ลาดชันเกิน 30 เมตรขึ้นไปนั้นจะใช้รูปแบบปรับพื้นผิวด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนบริเวณไหนที่เป็นลำห้วย จะใช้วิธีการวางท่อเพื่อให้น้ำไหลผ่านเส้นทางไป ส่วนบริเวณที่เป็นหล่มลึกจะมีการปรับพื้นผิวเส้นทางแล้วลงหิน และปรับลูกรังเพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้
ด้านนายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ กล่าวว่า สำหรับ อบต.ไล่โว่ ตั้งอยู่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ต.ไล่โว่ มีทั้งหมด 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 1 บ้านสะเนพ่อง หมู่ 2 บ้านกองม่องทะ หมู่ 3 บ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ 4 บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ 5 บ้านทิไล่ป้า และหมู่ 6 บ้านจะแก ต.ไล่โว่ มีประชากร จำนวน 6,124 คน 1,315 ครัวเรือน ประชาชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่มีหลักฐานการอยู่อาศัยในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะมีการประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกในภายหลัง และจากนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (ประเภทมรดกทางธรรมชาติ) เมื่อปี พ.ศ.2534
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร เช่น ทำไร่นา และปศุสัตว์ ตำบลไล่โว่ มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 2 แห่ง สุขศาลาพระราชทาน 2 แห่ง ศูนย์เด็กเล็กก่อนเกณฑ์ของ อบต.ไล่โว่ 9 แห่ง โรงเรียนสังกัด สพฐ. 5 แห่ง และสังกัด กก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) จำนวน 3 แห่ง มีนักเรียนรวมกันทั้งหมด 1,350 คน