บุรีรัมย์ - ผอ.สพป.เขต 3 บุรีรัมย์ สั่งตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง ม.3 พกอาวุธมีดเข้าไปฟันเพื่อนในห้องเรียนบาดเจ็บสาหัสปมถูกบูลลี่ฐานะครอบครัวยากจน พร้อมกำชับทุกโรงเรียนในสังกัดตรวจเข้มป้องกันเด็กพกอาวุธเข้าไปใน ร.ร. ทั้งย้ำทำความเข้าใจและสังเกตพฤติกรรมเด็กใกล้ชิดป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (9 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.น้ำตาล โสพรมมี อายุ 35 ปี ชาว ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้พานายอาชา หรือโอ๊บ อายุ 15 ปี ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปะคำ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ปะคำ หลังจากได้ถูก นายภูมิ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันใช้มีดตะขอฟันที่ต้นคอ และแขนข้างขวา ขณะนั่งเรียนในห้องเรียนต่อหน้าครูและเพื่อนที่นั่งเรียนหลายคน จนบาดเจ็บสาหัส เย็บกว่า 30 เข็ม ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ.หลายวัน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยนายภูมิ นักเรียนที่ก่อเหตุอ้างว่าสาเหตุที่ใช้มีดฟันนายโอ๊บเพราะถูกบูลลี่เรื่องฐานะครอบครัวยากจนหลายครั้ง จนทำให้เก็บกด จึงกลับไปเอามีดที่บ้านมาก่อเหตุฟันเพื่อน ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด นายสุชิต ชมภูวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 3 บุรีรัมย์ (ผอ.สพป.เขต 3 บุรีรัมย์) ได้สั่งให้ทางโรงเรียนตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น แล้วสรุปรายงานมายังเขตพื้นที่การศึกษาฯ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งจากข้อมูลรายงานเบื้องต้นทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากเด็กอาจจะมีการพูดหยอกล้อกันตามประสาเพื่อนที่สนิทกัน แต่ไม่ได้คิดว่าจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
จากกรณีดังกล่าวได้ให้คณะครูกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา นักจิตวิทยา เข้าไปพูดคุยเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กทั้งสองฝ่ายในเบื้องต้น ส่วนที่ผู้ปกครองจะมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันก็เป็นสิทธิของผู้ปกครอง เนื่องจากทั้งคู่ก็ยังเป็นเยาวชนและยังต้องศึกษาต่อ สำหรับเรื่องคดีความก็เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะดำเนินการ
ส่วนมาตรการการป้องกันได้กำชับให้ทุกโรงเรียนในสังกัดได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราเด็กเพื่อป้องกันการแอบพกพาอาวุธเข้าไปในโรงเรียน รวมถึงเน้นย้ำให้ทางผู้บริหาร และคณะครูพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็กนักเรียนทั้งระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ไม่ให้ใช้คำพูดในลักษณะล้อเลียนหรือเสียดสีกัน รวมถึงให้สังเกตพฤติกรรมเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวอีก