บุรีรัมย์ - จนท.ยุติธรรม จ.บุรีรัมย์ รุดแจ้งสิทธิช่วยนักเรียน ม.3 ถูกเพื่อนใช้มีดฟันคอและแขนคาห้องเรียนอาการสาหัสเย็บ 30 เข็ม ตร.ยังไม่แจ้งข้อหารอทีมสหวิชาชีพสอบตามขั้นตอนเพราะเป็นเยาวชน ป้าผู้บาดเจ็บยันหลานไม่ได้บูลลี่เพื่อนตามที่กล่าวอ้าง เพราะครอบครัวรับจ้างหากินฐานะไม่ได้ต่างกัน วอนสังคมสื่ออย่าฟังความฝ่ายเดียว ด้านแม่ผู้ก่อเหตุเผยลูก โทร.หาร้องไห้ระบายถูกเพื่อนบูลลี่ฐานะเก็บกดมานานจนทนไม่ไหว
วันนี้ (8 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.น้ำตาล โสพรมมี อายุ 35 ปี ชาว ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้พานายอาชา หรือ โอ๊บ อายุ 15 ปี ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปะคำ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ปะคำ หลังจากได้ถูกนายภูมิ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันใช้มีดตะขอฟันที่ต้นคอ และแขนข้างขวา ขณะนั่งเรียนในห้องต่อหน้าครูและเพื่อนที่นั่งเรียนหลายคน จนบาดเจ็บสาหัส เย็บกว่า 30 เข็ม ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ.หลายวัน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยนายภูมิ นักเรียนที่ก่อเหตุอ้างว่าสาเหตุที่ใช้มีดฟันนายโอ๊บ เพราะถูกบูลลี่เรื่องฐานะครอบครัวยากจนหลายครั้ง จนทำให้เก็บกด จึงกลับไปเอามีดที่บ้านมาก่อเหตุฟันเพื่อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ได้เดินทางไปยังบ้านผู้เสียหายที่ ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เพื่อแจ้งสิทธิหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม กรณีการขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมกรณีตกเป็นผู้เสียหายหรือถูกกระทำในคดีอาญา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและปลัดอำเภอปะคำได้ลงพื้นที่ไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา พิจารณาประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการหาแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนโดยเฉพาะการพกอาวุธไปก่อเหตุถึงในห้องเรียน รวมถึงกรณีที่ผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บยังเป็นเยาวชนทั้งคู่ ต้องเข้าไปดูแลเรื่องสภาพจิตใจของทั้งสองฝ่ายด้วย ส่วนเรื่องคดีว่ากันไปตามกระบวนการ
ด้าน น.ส.ตุ๊กตา ป้าของผู้บาดเจ็บ บอกว่า กรณีที่สื่อหลายสำนักนำเสนอข่าวว่าหลานไปบูลลี่เพื่อนที่ก่อเหตุ ตนอยากจะถามว่าเขาคบกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ม.3 ถ้าเพื่อนโดนบูลลี่จริงทำไมถึงยังคบกันต่อ และก่อนวันเกิดเหตุก็ยังมาเล่นด้วยกันที่บ้านหลาน ถ้าหลานไปบูลลี่เขาจริงทำไมเพื่อนไม่เลิกคบ และในข่าวบอกว่าพูดบูลลี่ถึง 3 วันซ้อนก็ไม่เป็นความจริง เพราะหลานเพิ่งจะกลับมาจากพัทยา จ.ชลบุรี วันพุธ สัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วน้องก็ไปโรงเรียนช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีกับวันศุกร์ช่วงเช้าก่อนจะถูกเพื่อนฟัน แล้วจะบอกว่าบูลลี่ซ้อนกันถึง 3 วันยิ่งเป็นไปไม่ได้
อยากให้เห็นใจครอบครัวและนึกถึงสภาพจิตใจหลานด้วย เพราะถูกกระทำเจ็บทั้งร่างกาย ยังมาถูกสังคมต่อว่าให้กระทบสภาพจิตใจอีก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งครอบครัวของหลานก็มีอาชีพรับจ้างหากินไม่ได้ร่ำรวยอะไร เป็นไปไม่ได้ที่จะไปดูถูกหรือบูลลี่คนอื่น อยากวิงวอนสังคมว่าให้เห็นใจหลานด้วยอย่าฟังความข้างเดียวจากคำกล่าวอ้างของผู้กระทำ แล้วมาต่อว่าน้องให้เสียหาย ก็อยากขอความเห็นใจและให้ความเป็นธรรมแก่หลานด้วย
ขณะที่ น.ส.วรรนภา พลพันธ์ อายุ 36 ปี แม่น้องภูมิ คนที่ก่อเหตุ บอกว่า จากการสอบถามลูกชายบอกว่าถูกเพื่อนล้อเลียนหรือบูลลี่เรื่องฐานะยากจนและกล่าวหาว่าพ่อแม่ไม่ดูแล แต่ลูกชายไม่เคยตอบโต้อะไรเพราะเป็นคนไม่ค่อยพูด เก็บเอาไว้ตลอด กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ย.ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้โทรศัพท์ไปหาตนซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัดแล้วร้องไห้ บอกว่ารู้สึกเหนื่อยทนไม่ไหวที่ถูกเพื่อนบูลลี่ ตนได้แต่พูดปลอบใจลูกว่าเขาอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไปไม่ต้องไปคิดมาก แต่เพื่อนไม่ยอมหยุดยังจับกลุ่มกันพูดล้อเลียนไม่เลิก ทำให้ลูกชายเกิดความเก็บกดจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
“รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกชายต้องคอยปลอบให้กำลังใจ ส่วนเรื่องคดีต้องปล่อยไปตามกระบวนการ” น.ส.วรรนภา แม่ผู้ก่อเหตุกล่าว
