บุรีรัมย์ - “อนุทิน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นโรงพักเมืองบุรีรัมย์ถอนแจ้งความไม่ติดใจเอาผิด “หม่อมปลื้ม” จ้อผ่านรายการ หัวข้อ “ไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ?” หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หลังถอดโพสต์ที่ได้ออกรายการและพูดขอโทษในรายการ
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาถอนแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ โดยไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล และพวกที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ดำเนินรายการ "The Daily Dose โลกการเมือง" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Voice tv หัวข้อ ไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ? เผยแพร่เป็นสาธารณะประชาชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ อันเป็นความผิดในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ก่อนหน้านี้ได้มอบอำนาจให้ นายยุทธชัย พงศ์พณิช สมาชิกพรรคภูมิใจไทย แจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ ตามคดีอาญาที่ 1024/2565 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2565 อีกทั้งหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม ได้เดินทางมาพบ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา
ทราบจากพนักงานสอบสวน แจ้งว่าได้สอบสวนพยานบุคคลภายนอกที่ได้เห็นรายการดังกล่าว มีความเห็นว่าถ้อยคำในรายการดังกล่าวหมิ่นประมาทนายอนุทินจริง ได้ถอดเทปรายการดังกล่าวแล้ว มีถ้อยคำที่หมิ่นประมาทนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทยหลายถ้อยคำ ขณะนี้สำนวนการสอบสวนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวน
บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล และพวกที่เกี่ยวข้อง อีกต่อไป จึงได้ขอถอนคำร้องทุกข์ออกไปจากพนักงานสอบสวนแต่เวลานี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ เพื่อที่จะมาถอนแจ้งความ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือคุณปลื้ม ซึ่งเป็นพิธีกรประจำช่อง เพจเฟซบุ๊ก Voice tv ที่ได้เคยออกอากาศ และมีข้อความในเชิงให้ร้าย และหมิ่นประมาทตน และพรรคภูมิใจไทย แต่หลังจากที่ได้แจ้งความแล้วนั้น ทางคู่กรณีก็ได้ถอดโพสต์ที่ได้ออกในรายการดังกล่าวออกไป และได้มีการพูดขออภัยในรายการ ซึ่งเป็นที่รับทราบโดยประชาชนทั่วไป
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าเมื่อท่านไม่ได้มีเจตนาที่ว่ากล่าวให้ร้ายตน หรือพรรคภูมิใจไทย จากความอคติหรือเกลียดชังส่วนตัวของท่าน ท่านก็ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว ทำหน้าที่พิธีกรตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ท่านได้รับมาจากข้อมูลข่าวสารต่างๆ และท่านก็ได้พูดขอโทษในรายการ ตนก็ไม่คิดจะไปติดใจเอาความกันเพื่ออะไร ซึ่งมีความเดือดร้อนในการต้องต่อสู้คดี ทั้งโจทก์ ผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้อง เห็นว่าเวลามันสมควรแล้ว
“วันนี้มาที่ จ.บุรีรัมย์ ด้วยตัวเองด้วย คิดว่าเพื่อให้ทุกอย่างมันจบลงไปได้ด้วยดี ไม่มีการติดใจเอาความอะไร เลิกแล้วต่อกันไป ไม่ถือสาหาความอะไรอีก เลยตัดสินใจมาถอนฟ้อง และก็สบายใจดี เพราะว่าถ้ามีอะไรมันคาสมอง คาความคิดอะไรต่างๆ เวลาอีกหน่อยเราเจอเขา ต้องพบเจอกับคนที่รู้จักเขา เพื่อนฝูงเขา หรือตัวเขาเอง มันก็จะเกิดความกระอักกระอ่วน ซึ่งไม่ทราบว่าจะเกิดประโยชน์ คิดว่าถอนฟ้องเป็นสิ่งที่ดี เลยมาถอนฟ้อง จบข่าว” นายอนุทินกล่าวในตอนท้าย