เชียงใหม่ - “สองแม่ลูก สู้มะเร็ง” สุดซาบซึ้งน้ำใจหลั่งไหลช่วยไม่หยุด ทั้งครอบครัวกำลังใจดีเยี่ยมพร้อมสู้ชีวิตต่อไป ล่าสุดนักธุรกิจดังเจ้าของโครงการ “พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง” ยกทีมช่วยอีกแรง
จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เรื่องราวของนางสาวผ่องศรี พรมจันทร์ หรือไอซ์ อายุ 37 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปากจนต้องตัดลิ้นออก กับนายวราวุธ เทพจันทร์ หรือแนท ผู้เป็นสามี อายุ 45 ปี ต้องช่วยกันตั้งร้านขายข้าวไข่เจียว “สองแม่ลูก สู้มะเร็ง” ริมถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ขาเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ใกล้สี่แยกศาลเด็ก ในตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 22.00-02.00 น. เกือบทุกคืน เพื่อหารายได้เพิ่มเติมสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวและเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน เป็นลูกชายอายุ 11 ขวบ และลูกสาวอายุ 7 ขวบ รวมทั้งเพื่อเป็นค่ารักษาตัวเองและลูกชายอายุ 11 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากที่เรื่องราวมีการแชร์ออกไปเป็นวงกว้างทำให้ธารน้ำใจจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้อย่างท่วมท้น ทั้งลูกค้าที่มาอุดหนุน รวมทั้งคนที่ช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า คืนวานนี้ (6 ก.ย. 65) นางสาวผ่องศรี และสามี พร้อมด้วยลูกชายและลูกสาว ยังคงตั้งร้านเปิดขายข้าวไข่เจียวตามปกติ โดยมีลูกค้ามารออุดหนุนตั้งแต่ที่ยังไม่ทันได้ตั้งร้าน ขณะที่นางนันทวรรณชยา ภาจิตประพันธ์ หรือ “พี่แหม่ม” นักธุรกิจสมุนไพรชื่อดัง เจ้าของเพจ “พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง” และผู้ริเริ่มโครงการ “พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง” ที่คอยให้ความช่วยเหลือเยียวยาและดูแลผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ พร้อมทีมงานและแพทย์แผนไทย เข้าให้การดูแลช่วยเหลือ รวมทั้งช่วยเหมาซื้อข้าวไข่เจียวที่ขายทั้งหมดแจกจ่ายให้แก่ลูกค้าที่มารอซื้อ เพื่อให้ทั้งครอบครัวนี้ได้ปิดร้านกลับบ้านเร็วและได้พักผ่อนมากกว่าทุกวัน โดยเฉพาะนางสาวผ่องศรีและลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง นอกจากนี้ “พี่แหม่ม” ยังพร้อมให้การช่วยเหลืออื่นๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ นางนันทวรรณชยาเปิดเผยว่า ทราบเรื่องราวของครอบครัวนี้ที่แม่และลูกชายป่วยเป็นมะเร็ง จึงต้องการให้ความช่วยเหลือ โดยเวลาในการเปิดขายข้าวไข่เจียวของครอบครัวนี้ในช่วงเวลา 22.00 -02.00 น.เห็นว่าไม่น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วย และลูกๆ ที่มาด้วย เพราะทำให้ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งเบื้องต้นได้ช่วยอุดหนุนซื้อข้าวไข่เจียวที่เปิดขายในคืนนี้ทั้งหมดแจกจ่ายแก่ลูกค้าที่มารอซื้อและผู้ป่วยมะเร็งที่ตัวเองให้การช่วยเหลืออยู่ในพื้นที่ภาคเหนือที่พร้อมใจกันมาให้กำลังใจครอบครัวนี้ด้วย ขณะที่ในวันที่ 7 ก.ย. 65 จะพาแพทย์แผนไทยเข้าไปให้คำแนะนำและตรวจอาการอย่างละเอียด รวมทั้งมอบยาสมุนไพรให้ นอกจากนี้เตรียมจะมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ครอบครัวนี้นำไปดาวน์รถ Food Truck เพื่อใช้เปิดร้านขายได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
ด้านนายวราวุธกล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื้นตันอย่างมากที่ได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่เรื่องราวของภรรยาตัวเองที่ป่วยเป็นมะเร็ง และลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง มีการเผยแพร่ออกไป ยอมรับว่าทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนจำนวนมาก สามารถขายข้าวไข่เจียวได้คืนละ 200-300 กล่อง รวมทั้งได้รับการช่วยเหลือเป็นสิ่งของ และเงินบริจาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับกำลังใจอย่างมหาศาลทำให้มีพลังที่จะดิ้นรนต่อสู้ชีวิตต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมาก