ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “บิ๊กโจ๊ก” แถลงคดีความผิดทางเพศในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ผงะรวบครูหนุ่มโคราชกระทำอนาจารและกระทำชำเราลูกศิษย์อื้อ 22 คน และจับกุม นศ.หนุ่มรับสอนพิเศษหลอกอนาจารล่วงละเมิดเด็ก
18 ราย พร้อมถ่ายคลิปโพสต์ขายในโลกโซเชียล พบบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนนับล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่ห้องประชุมสุรนารายณ์ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่าที่รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3), พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา, พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.ศภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงจับกุมคดีที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศและการค้ามนุษย์รวมจำนวน 4 คดี
โดยในจำนวนนี้มีคดีที่ข้าราชการครูหนุ่มคนหนึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้ก่อเหตุกระทำอนาจารและล่วงละเมิดลูกศิษย์ของตัวเองรวมจำนวน 22 ราย พร้อมกับถ่ายคลิปไปโพสต์ขายในโลกโซเชียล
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต TICAC ภาค 3 ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับความผิดทางเพศรวมจำนวน 4 คดี ในจำนวนนี้มี 2 คดีที่น่าสนใจ
คดีแรกตำรวจได้รับแจ้งจาก นางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ระบุว่า ลูกชายวัย 15 ปี ได้ถูกชายวัย 22 ปี หลอกลวงไปกระทำชำเรา และถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ต่อมาตำรวจจึงได้สืบสวนจับกุมตัว นายบารมี ทองทิพย์ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน จากการตรวจหน่วยความจำในโทรศัพท์พบสื่อลามกอนาจาร แยกเป็น ภาพนิ่ง 49 ไฟล์ วิดีโอ 112 ไฟล์ ในจำนวนนี้เป็นภาพลามกอนาจารเด็กของลูกชายของผู้เสียหาย จำนวน 2 ไฟล์ รวมพบผู้เสียหาย 18 ราย แยกเป็นกระทำอนาจาร 17 ราย กระชำเรา 1 ราย
ตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนนับล้านบาท ผู้ต้องหาให้การรับว่าได้ใช้วิธีการโพสต์ชักชวนให้คนมามีเพศสัมพันธ์กับตัวเอง จากนั้นผู้ต้องหาได้ขอใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้ แล้วนำไปโพสต์ในกลุ่มลับ โดยคิดค่าสมาชิกกลุ่มลับในราคารายละ 200-250 บาท โดยในกลุ่มลับมีสมาชิกประมาณ 1,500 คน
ส่วนอีกคดีที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้รับการประสานแจ้งเบาะแสจาก NCMEC ผ่านสำนักงานในไทยของหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กระทรวงความมั่นคงแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ตรวจพบการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก ผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียในชื่อ เรียนภาษาไทยกับครูอาร์ท พบมีการอัปโหลดสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการสืบสวน และสามารถจับกุมตัว นายนันทพัทธ์ ชนะภัย ข้าราชการครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
จากการนำหมายค้นของศาลเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักครูพบของกลาง โทรศัพท์มือถือ และเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ภายในเครื่องพบคลิปลามกอนาจารจำนวนมากหลายหมื่นคลิป ในจำนวนนี้พบไฟล์คลิปวิดีโอ จำนวน 639 ไฟล์ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปกระทำชำเรา และกระทำอนาจารเด็ก โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ตัวเองเคยเป็นครูประจำชั้น และเคยสอนพิเศษ ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งมีเด็กตกเป็นเหยื่อและเป็นผู้เสียหายในคดีรวมจำนวน 22 ราย