กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี เตือน 5 อำเภอเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่าง 4-10 ก.ย.นี้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น
วันนี้ (4 ก.ย.) นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (225/2565) ลงวันที่ 3 กันยายน 2565 แจ้งว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น
โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคใต้ และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 36/2565 ลงวันที่ 2 กันยายน 2565 โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2565
โดยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอหนองปรือ อำเภอบ่อพลอย และอำเภอเลาขวัญ ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2565
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ จึงให้ กอปภ.อ. กอปภ. อปท. และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการดังนี้ 1.ประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และปริมาณฝนสะสมที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ให้รีบแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ทันที
2.หากเกิดสถานการณ์สาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีโดยประสานจัดกำลังจิตอาสาเข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย พร้อมทั้งแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีทราบทันที ทางหมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 0-3451-5998 และ 0-3451-6795 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ dpm Kan@hotmail.co th และแอปพลิเคชันไลน์ รายงานสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับอำเภอ ขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เช่น เทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลทราบและดำเนินการด้วย