ทม.มาบตาพุด สั่งเฉียบห้ามรถบรรทุกวิ่งขนแร่ยิปซัมออกจากนิคมฯ หลังชาวบ้านเดือดร้อน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เทศบาลเมืองมาบตาพุด สั่งเฉียบห้ามรถบรรทุก 10 ล้อวิ่งขนแร่ยิปซัมกองทับถมนานเกือบ 30 ปี ออกจากนิคมฯ มาบตาพุด จ.ระยอง หลังสร้างความเดือดร้อนชาวบ้าน ทั้งจากปัญหาถนนพัง ฝุ่นฟุ้งกระจาย รอพิสูจน์ให้ได้ผงฝุ่นที่นำออกไปทิ้งไม่ก่ออันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

จากกรณีชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากรถบรรทุก 10 ล้อพ่วงประมาณ 100 คัน วิ่งขนผงแร่ยิปซัมออกจากพื้นที่รกร้างของโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่งซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ และหยุดดำเนินการตั้งแต่ปี 2537

โดยได้ขนออกไปทิ้งยังจุดทิ้งผงแร่ยิปซัมซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งชาวบ้านใช้ทำการเกษตร และสวนยางพารา จนทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย และหวั่นว่าจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมเรียกร้องให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบนั้น

วันนี้ (2 ก.ย.) นายสุเมธ คนทา รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับทราบความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้รายงานให้ นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ทราบพร้อมนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม

พบว่ามีรถบรรทุกพ่วงจำนวนมากวิ่งเข้าออกจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อนำผงแร่ยิปซัมไปทิ้งในที่ดินของชาวบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำเนื้อที่กว่า 39 ไร่จริงตามที่ได้รับแจ้ง และจากการตรวจสอบสภาพถนนสาธารณะที่รถบรรทุกวิ่งเข้าออกพบว่า เกิดการชำรุดเสียหายจนทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความสะดวก


เบื้องต้น จึงได้มีการประสานไปยังผู้บริหาร บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) เพื่อขอให้ยุติการขนย้ายผงแร่ยิปซัมจนกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิสูจน์ได้ว่าผงฝุ่นที่นำออกไปทิ้งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ยังเผยอีกว่า ในส่วนของการขนย้ายผงแร่ยิปซัมสารปรับปรุงคุณภาพดินซึ่งเป็นของเสียจากงานก่อสร้าง การรื้อทำลายสิ่งก่อสร้าง และวัสดุที่ไม่สามารถใช้งานได้ออกนอกพื้นที่ของบริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) นั้น เทศบาลได้ทำหนังสือแจ้งให้บริษัทปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการชนส่ง พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติการขุดดิน ถมดิน พ.ศ.2543 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

และหากการขนย้ายส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน หรือพบว่ามีการฝ่าฝืนคำสั่งเทศบาลมาบตาพุด จะขอยกเลิกใบอนุญาตทันที และขณะนี้เทศบาลได้ทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่หมดแล้ว

"เบื้องต้นได้ให้ผู้ประกอบการยุติการขนย้ายไปก่อนจนกว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำสารดังกล่าวไปตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีสารปนเปื้อนมากน้อยเพียงใดเพราะสารนี้ถูกทิ้งไว้นานกว่า 20 ปีและขณะนี้ได้จับตัวเป็นก้อนแล้ว"


ด้าน น.ส.หทัยธร เกษตรวิเศษ สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง เผยว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับรถบรรทุกขนผงแร่ยิปซัมออกจากนิคมมาบตาพุด ซึ่งใช้ถนนหลวงและถนนสายต่างๆ ในชุมชนมาบตาพุด จนเกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย ยังมีก้อนผงแร่ยิปซัมตกหล่นบนถนน อีกทั้งยังมีการบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราจนทำให้ถนนได้รับความเสียหาย

เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถบรรทุกที่จะออกจากพื้นที่โรงงานเพื่อให้ทำการชั่งน้ำหนัก และคลุมผ้าใบให้เรียบร้อย แต่พบว่ารถบรรทุกบางคันไม่คลุมผ้าใบให้รัดกุม และหากได้รับอนุญาตให้ขนย้ายออกจากพื้นที่ได้อีกครั้งจะต้องจัดเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจชั่งน้ำหนัก ซึ่งหากพบว่ารถคันใด บรรทุกน้ำหนักเกินหรือมีการต่อเติมดัดแปลง และไม่ต่อภาษีจะจับกุมดำเนินคดีอย่างแน่นอน