xs
xsm
sm
md
lg

น้ำใจหลั่งไหล! คนเข้าคิวยาวอุดหนุนข้าวไข่เจียว "สองแม่ลูกสู้มะเร็ง" ตั้งโต๊ะขายริมทางหาเงินรักษาตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - พลังโซเชียลหลั่งไหลน้ำใจช่วยอุดหนุนข้าวไข่เจียว “สองแม่ลูกสู้มะเร็ง” ตั้งโต๊ะขายริมถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด โดยทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูกช่วยกันทำตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงเช้ามืด หาเงินเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมทั้งรักษาแม่อายุ 37 ปี และลูกชายอายุ 11 ขวบที่ต่างป่วยมะเร็งทั้งคู่


รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตามที่เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 65 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ณฤชล มีวัฒนะกุล” ได้โพสต์เรื่องราวของคุณแม่คนหนึ่ง พร้อมสามีและลูกอีก 2 คนที่นั่งขายข้าวไข่เจียวกลางดึกริมถนน แต่ไม่ค่อยมีลูกค้า เลยแวะอุดหนุน และสอบถามจนทราบเรื่องราวที่สะเทือนใจว่าตนเองเป็นแม่ป่วยเป็นมะเร็งเมื่อ 4 ปีก่อน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอาลิ้นบางส่วนออกจนทำให้มีปัญหาทางด้านการพูด และหลังจากที่เริ่มป่วยได้ 1 ปีก็มาพบว่าลูกชายก็ป่วยเป็นมะเร็งอีกคน จนต้องหาเงินมารักษา และดูแลครอบครัวทุกวิถีทาง รวมทั้งการตั้งโต๊ะริมถนนเปิดขายข้าวไข่เจียวตั้งแต่ 4 ทุ่มไปจนถึงช่วงเช้ามืดเพื่อดิ้นรนหาเงิน แม้ว่าร่างกายจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์

โดยโพสต์ดังกล่าวบรรยายข้อความว่า "เห็นน้องมานั่งขายข้าวไข่เจียว ขี่ผ่าน เลยลองย้อนแวะมาดู มาขายวันเเรก ขายคนเดียว แยกเซ็นเฟส ก่อนถึงอีซูซุธารามานิดหน่อย (พูดไม่ชัดตัดลิ้นเพราะมะเร็ง มีลูก 2 ลูกก็เป็นมะเร็ง) ชอบตรงสู้ชีวิตนี่แหละครับ ใช้มอเตอร์ไซค์ขนของเอง ผมเลยนั่งกินข้าวข้างฟุตปาธคุยกับน้อง เลยให้น้องเป็นกำลังใจ 100 บาท เงินไม่เยอะแต่ก็ช่วยฟ กันไป น้องบอกจะขายถึงเช้า ไม่รู้จะไหวป่าว สรุปขาย 4 ทุ่ม-ตี 2"

ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปปรากฏว่ามีการแชร์ต่อกันไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วจนเกิดพลังโซเชียล ที่นำพาธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือครอบครัวน้อง จนในคืนวันที่ 31 ส.ค. 65 ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้คนที่ทราบข่าวหลั่งไหลมาอุดหนุนข้าวไข่เจียวกันนับร้อยคนจนเจ้าตัว และครอบครัวยังรู้สึกตกใจ เพราะข้าวที่หุงไป 5 หม้อหมดลงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง โดยเรื่องราวของครอบครัวนี้กลายเป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจให้แก่โลกโซเชียล และชาวเชียงใหม่เพียงข้ามวัน

ขณะที่คืนที่ผ่านมา (1 ก.ย. 65) พบว่า ตั้งแต่ก่อนเวลา 22.00 น.ที่จะเปิดขาย ปรากฏว่ามีผู้ที่ทราบเรื่องราวทั้งชาวเชียงใหม่และใกล้เคียงต่างพากันเดินทางมารออุดหนุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งทันทีที่ครอบครัวดังกล่าวขนอุปกรณ์มาถึงเพื่อเตรียมตั้งร้านขายข้าวไข่เจียว ทางกลุ่มลูกค้าที่มารอได้ช่วยกันขนอุปกรณ์มาจัดวางตั้งร้านอย่างขะมักเขม้นจนเสร็จและเปิดร้านขายได้ภายในเวลารวดเร็ว ขณะที่น้องพลอยใส ทำหน้าที่ช่วยเหลือพ่อแม่ด้วยการเตรียมกล่องและตักข้าวใส่ โดยลูกค้าที่มาอุดหนุนมีจำนวนมากจนทำแทบไม่ทัน และลูกค้าบางคนถึงกับต้องช่วยเป็นลูกมือด้วย รวมทั้งบางรายมีการนำข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำมันพืชมามอบให้ด้วยเพื่อสนับสนุนการทำมาหากิน รวมทั้งมีจำนวนหนึ่งที่ช่วยมอบเงินให้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกทั้งสองคนด้วย


จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าครอบครัวนี้ประกอบด้วย นายวราวุธ เทพจันทร์ หรือแนท ผู้เป็นสามี อายุ 45 ปี และนางสาวผ่องศรี พรมจันทร์ หรือไอซ์ ภรรยา อายุ 37 ปี มีลูกสองคน คือ น้องพู ลูกชายคนโตวัย 11 ขวบ และน้องพลอยใส ลูกสาวคนเล็ก อายุ 7 ขวบ ก่อนหน้านี้ครอบครัวมีอาชีพเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้างดัง แต่เมื่อ 4 ปีก่อนมาพบว่าภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปาก และอาการลุกลามจนต้องทำการรักษา และต้องตัดลิ้นส่วนหนึ่งออกไปจนทำให้กลายเป็นผู้พิการทางการพูด และต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องหลายปี

ประกอบกับเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาช่วงวิกฤตโควิดทำให้ต้องปิดร้านครอบครัวสูญเสียรายได้ จนนายวราวุธ หัวหน้าครอบครัวก็ต้องรับภาระหนักที่สุดดิ้นรนหางานทำจนต้องประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งสินค้า และอาหาร พร้อมกับเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่บ้านขายพวกข้าวผัด พะโล้ ข้าวไข่เจียวเพื่อหารายได้ในช่วงกลางวัน แต่ช่วง 3 ปี ก่อนก็มาพบว่าลูกชายป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเช่นกันอยู่ในระยะที่ต้องควบคุมดูแลใกล้ชิด ปัจจุบันต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง โชคดีที่ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท และได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ส่วนนางสาวผ่องศรี ผู้เป็นภรรยา ต้องรับการรักษาไปพร้อมกันจนปัจจุบันอาการเริ่มดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้น แต่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง และมีปัญหาเรื่องการพูด รวมทั้งการกินอาหารที่มีปัญหาจากการผ่าตัดรักษา จนปัจจุบันต้องกินอาหารที่เป็นของเหลวเท่านั้น จำพวกนม และอาหารเสริมแต่ก็พอช่วยเหลือครอบครัวขายอาหารที่บ้านในอำเภอสันทราย พร้อมกับดูแลลูกชายคนโตที่ตอนนี้ต้องหยุดเรียนเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง แต่ทางโรงเรียนยังช่วยเปิดโอกาสให้เรียนออนไลน์ไปก่อน ซึ่งตอนนี้ต้องใช้ยาจากต่างประเทศที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ทางสถาบันมะเร็งช่วยเหลืออยู่ทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ

โดยในแต่ละวันหลังจากที่ขายอาหารที่บ้านในช่วงกลางวันแล้ว นางสาวผ่องศรี ได้ขอช่วยเหลือสามีหารายได้เพิ่มด้วยการออกมาขายข้าวไข่เจียว ริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณแยกศาลเด็ก ขาเข้าเมือง ตั้งแต่ช่วงเวลา 4 ทุ่มไปจนถึงช่วงเช้ามืดของทุกวัน ซึ่งบางวันก็ขายได้ไม่มาก บางวันก็ต้องเจอฝนที่ตกในช่วงนี้ เพราะที่ตั้งขายเป็นริมถนนไม่มีร่มหรือหลังคา บางวันก็จะพาลูกทั้ง 2 คนออกมาด้วย แต่บางวันก็จะให้เข้านอนก่อนแล้วค่อยออกมาช่วยกันขายสองคนผัวเมีย จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งมาอุดหนุนและแชร์เรื่องราวนี้ออกไปจนกลายเป็นที่มาของธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือทั้งออกมาช่วยกันอุดหนุนข้าวไข่เจียว บริจาคข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมัน รวมทั้งเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา


ด้าน นายวราวุธ เทพจันทร์ หรือแนท ผู้เป็นสามี เปิดเผยว่า รู้สึกตื้นตันและดีใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่เชื่อว่าพลังโซเชียลจะมากมายขนาดนี้ เพียงไม่กี่วันก็มีคนรู้จักมากมาย และมาช่วยเหลือครอบครัวของตนเองจนทำอะไรไม่ค่อยจะถูกแล้ว ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือได้กำลังใจมหาศาลที่ทำให้พร้อมจะสู้ต่อไปเพื่อครอบครัวจะดูแลครอบครัวจนถึงนาทีสุดท้ายของลมหายใจทุกคน เช่นเดียวกับนางสาวผ่องศรี ผู้เป็นภรรยา ที่ฝากขอบคุณทุกกำลังใจ และความช่วยเหลือที่มีมาให้ครอบครัวมีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปถึงที่สุด ทั้งนี้ ทางครอบครัวก็ยังน้อมรับน้ำใจที่จะช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องดูแล ซึ่งยังมีภาระที่อยู่ข้างหน้าอีกมากทั้งการรักษาพยาบาลทั้งสองคนที่ป่วย และค่าเลี้ยงดูและเล่าเรียนของลูก สามารถส่งความช่วยเหลือมาได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขา ศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว เลขบัญชี 455-0-30336-0 ชื่อบัญชี น.ส.ผ่องศรี พรมจันทร์ เบอร์โทร. 08-7788-5535 หรือสามารถอุดหนุนร้านอาหารที่ขายช่วงกลางวัน และส่งผ่านไรเดอร์ หรือมาอุดหนุนร้านไข่เจียว ช่วงกลางคืน ที่อาจจะไม่ได้มาขายทุกวันเพราะบางวันภรรยาก็จะป่วยและไม่ค่อยมีแรงจึงไม่สามารถทำงานได้เหมือนคนปกติทั่วไป












กำลังโหลดความคิดเห็น