เชียงราย - ทดสอบแล้วปลอดภัย..สกายวอล์กแห่งแรกภาคเหนือบนดอยคำวัดพระธาตุผาเงาคืบหน้ากว่า 80% เตรียมเปิดรับพุทธศาสนิกชน-นักท่องเที่ยว ร่วมสัมผัสตั้งแต่ตุลาฯ 65 นี้ การันตีวิวสองฝั่งโขง-สามเหลี่ยมทองคำ 3 ประเทศสวยสุดในไทย เห็นไกลทั้งไทย-ลาว-เมียนมา
หลังจากคณะศรัทธาวัดพระธาตุผาเงา บ้านสบคำ หมู่ 5 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ร่วมกันดำเนินโครงการก่อสร้างทางเดินพื้นกระจกใส หรือสกายวอล์ก บนดอยคำ หรือดอยจัน ใกล้กับพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ และพระสยามภูมิ พิทักษ์เดชเทวาธิราช ตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา
ล่าสุดช่างรับเหมาได้ดำเนินการสกายวอล์กดังกล่าวคืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว เป็นสกายวอล์กหันหน้าไปทางทิศเหนือห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 400 เมตร ขนานไปกับถนนสายเชียงแสน-เชียงของ สามารถเห็นทิวทัศน์ริมน้ำโขงฝั่งไทยและบ้านดอนสะหวัน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว รวมถึงเห็นเขาสูงที่อยู่แต่ไกลใน สปป.ลาว เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ และประเทศเมียนมา
ปัจจุบันแม้จะยังไม่มีการเปิดให้ผู้คนได้เดินบนสกายวอล์ก แต่ก็เริ่มมีผู้คนไปชมความงดงามของทิวทัศน์และการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะพบโครงสร้างเป็นโลหะสูง 25 ชั้น ทาสีเขียวเข้มเข้ากับธรรมชาติ และตั้งอยู่บนดอยจันที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 381 เมตร
โดยโครงสร้างโลหะดังกล่าวเป็นคานที่ยื่นออกไปจากดอยจัน 2 ด้าน แต่ละด้านกว้างประมาณ 2.50 เมตร ยาวประมาณ 70 เมตร ตรงปลายเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่เชื่อมกับคานทั้ง 2 ด้าน ปัจจุบันช่างได้ติดตั้งกระจกหนาเข้ากับตรงคานแล้วและอยู่ระหว่างนำกระจกไปติดตั้งภายในวงแปดเหลี่ยมและตกแต่งจุดอื่นๆ เพื่อเตรียมจะเปิดให้ผู้คนได้ขึ้นไปเดินบนสกายวอล์กต่อไป
พระพุทธิญาณมุนี (ประเสริฐ ปัญญาวชิโร) เจ้าคณะ จ.เชียงราย และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา กล่าวว่า การก่อสร้างสกายวอล์กนี้มีขึ้นเนื่องจากได้พิจารณาแล้วเห็นว่าภูมิประเทศบริเวณนี้มีความเหมาะสม มีทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นได้ถึง 3 ประเทศ ทั้งไทย-พม่า-ลาว และยังติดกับแม่น้ำโขง/สามเหลี่ยมทองคำ
ดังนั้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปนมัสการพระธาตุผาเงา พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ฯลฯ ได้มีโอกาสชมทิวทัศน์ดังกล่าวได้แบบ 360 องศา ทางวัดจึงได้ร่วมกับภาคเอกชนก่อสร้างสกายวอล์กด้วยงบประมาณ 20 ล้านบาทมาตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา
โดยมีการวางแผนและออกแบบก่อสร้างเพื่อให้มีความปลอดภัยโดยวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะกลายเป็นสกายวอล์กแห่งแรกของภาคเหนือ ปัจจุบันการก่อสร้างเหลืออีกเพียง 20% ก็จะแล้วเสร็จโดยกลางเดือน ก.ย.นี้ก็จะแล้วเสร็จและทดลองใช้งานก่อนจะเปิดให้ผู้คนได้ขึ้นไปบนสกายวอล์กได้ราวกลางเดือน ต.ค.นี้ต่อไป
ด้านช่างก่อสร้างสกายวอล์กวัดพระธาตุผาเงาระบุว่า โครงสร้างโลหะมีความแข็งแกร่งมั่นคง เมื่อ 22 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา เคยเกิดแผ่นดินไหวตามมาตราวัดริกเตอร์ 6.4 แมกนิจูด ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ส่วนกระจกที่จะนำไปติดตั้งบนคานทางเดินและวงแปดเหลี่ยม จะเป็นแผ่น 3 ชั้น ที่มีความหนากว่า 48 มิลลิเมตร ซึ่งได้ทดลองนำกระสอบขนาด 50 กิโลกรัม จำนวน 58 ใบ รวมน้ำหนักประมาณ 2,900 กิโลกรัมวางทับแล้ว สามารถคงทนอยู่ได้
“ยืนยันว่าสกายวอล์กที่วัดพระธาตุผาเงามีความงดงามกว่าสกายวอล์กที่อื่นๆ ในประเทศไทย เพราะจุดอื่นจะมีภูเขาบดบังด้านหน้า แต่บนดอยจัน วัดพระธาตุผาเงา ไม่มีสิ่งบดบัง เห็นทั้งพื้นที่ราบก่อนถึงแม่น้ำโขงจรดขุนเขาใน สปป.ลาว และแม่น้ำที่มีทิวทัศน์งดงาม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้วัดพระธาตุผาเงาได้ร่วมกับบริษัทเอกชนจัดวางระบบ เตรียมเปิดให้ผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวสัมผัสสกายวอล์กได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 65 นี้เป็นต้นไป โดยจะมีการปิดเส้นทางขึ้นลงจากลานจอดรถตรงพระอุโบสถของวัดไปจนถึงพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ที่เป็นที่ตั้งของสกายวอล์ก พร้อมกับจัดรถรับส่งแทนโดยคิดราคาค่าโดยสารคนละ 30 บาท และมีศาลาที่พักสำหรับผู้ที่จะเดินลงสกายวอล์ค ขนาด 100 ที่นั่ง และจำหน่ายบัตรเดินสกายวอล์กคนละ 40 บาท
ทั้งนี้ คนที่จะขึ้นไปเดินบนสกายวอล์กต้องถอดรองเท้าและสวมใส่ถุงเท้าที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อรักษาสภาพของกระจกทางเดิน และกำหนดให้อยู่บนสกายวอล์กเบื้องต้นได้ครั้งละ 5-10 นาที แต่จะมีการกำหนดเวลาที่ชัดเจนอีกครั้งต่อไป
จากการประเมินสกายวอล์กแห่งอื่นๆ ที่เปิดใหม่ จะมีผู้คนไปท่องเที่ยววันละ 2,000-3,000 คน ดังนั้นทางวัดจึงจัดพื้นที่ลานจอดรถไว้รองรับบนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ รวมทั้งพัฒนาห้องน้ำและอื่นๆ รวมทั้งจะเปิดให้ชาวบ้านได้เปิดร้านจำหน่ายอาหารและอื่นๆ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวในอนาคตอีกด้วย
