xs
xsm
sm
md
lg

กระทรวงการต่างประเทศแถลงสรุปผลประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปกครั้งที่ 3 ที่จังหวัดเชียงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - กระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปก ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เผยที่ประชุมพร้อมขับเคลื่อนงานของเอเปก 2565 อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงการเดินทางข้ามพรมแดน และการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม สอดรับหัวข้อหลักการประชุมเอเปก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล”


บ่ายวันนี้ (31 ส.ค. 65) ที่โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปก ปี 2565 พร้อมด้วย นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ Dr. Rebecca Fatima Sta Maria เลขาธิการเอเปก ร่วมกันแถลงผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปก ครั้งที่ 3 ว่าตลอดระยะเวลาการประชุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 16-31 สิงหาคม 2565 ได้มีการประชุมทั้งในระดับผู้เชี่ยวชาญ และระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้า การลงทุน ที่ให้โอกาสคนทุกกลุ่ม การฟื้นฟู และส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างสะดวกและปลอดภัย และการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อหลักการประชุมเอเปก คือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล” โดยการประชุมทั้งหมดได้ขับเคลื่อนให้งานของเอเปก 2565 คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม 3 ประการ คือ

ประการที่ 1 ส่งเสริมการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้คนทุกกลุ่ม โดยได้สานต่อผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรื่องการนำความตกลงเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) มาหารือใหม่ในบริบทยุคหลังโควิด-19 โดยได้เริ่มจัดทำแผนงานขับเคลื่อนการหารือเรื่อง FTAAP ในระยะยาวภายใต้ 3 เสาหลัก คือ การค้าการลงทุน นวัตกรรมและดิจิทัล และการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายจะเสนอแผนงานนี้ให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปกเห็นชอบในเดือนพฤศจิกายนต่อไป

ประการที่ 2 การส่งเสริมความเชื่อมโยงการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกและปลอดภัย เอเปกได้เดินหน้าสานต่อการส่งเสริมการเดินทางข้ามพรมแดนในภูมิภาคอย่างสะดวกและปลอดภัย ด้วยการจัดประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจ APEC Safe Passage Taskforce (SPTF) ครั้งที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่วาระของคณะทำงานฯ จะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งประเด็นหารือสำคัญ คือ การแปรผลข้อเสนอต่างๆ ไปเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการจัดทำฐานข้อมูลเอเปก เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการเดินทางอย่างปลอดภัยที่จะเปิดให้เริ่มใช้ภายในเดือนกันยายนนี้ และการหารือถึงกิจกรรมที่ยังต้องเจรจาต่อไป อาทิ การขยายกลุ่มผู้ใช้บัตรเดินทางนักธุรกิจเอเปก (ABTC) ให้ครอบคลุมกลุ่มคนที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อให้เอเปกพร้อมรับมือวิกฤตใหม่โดยยังสามารถรักษาการเดินทางข้ามพรมแดนไว้ได้

และประการที่ 3 การส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม สมดุล และยั่งยืน ที่ประชุมได้เน้นย้ำความสำคัญของกระบวนการส่งเสริมความยั่งยืนไปพร้อมกันทั้งสังคม โดยจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการเงิน และผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจสมาชิก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังได้สานต่อการจัดทำเป้าหมายกรุงเทพฯ เรื่องเศรษฐกิจ BCG ด้วยการจัดประชุมวาระพิเศษ เพื่อรับฟังความเห็นของทุกเขตเศรษฐกิจฯ ให้พร้อมเสนอต่อที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกให้ความเห็นชอบในเดือนพฤศจิกายนนี้

ด้านการหารือเรื่องความยั่งยืน ที่ประชุมได้เห็นพ้องถึงความสำคัญของการส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อการดำเนินธุรกิจด้านป่าไม้และส่งเสริมชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการพัฒนาระบบอาหารและการเกษตรให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย

ทั้งนี้ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปก ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปกของไทย ให้พร้อมเดินหน้าเข้าสู่การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งใหญ่ ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ณ กรุงเทพมหานคร




กำลังโหลดความคิดเห็น