หนองคาย - ศุลกากรหนองคาย และเทศบาลเมืองหนองคายเตรียมเปิดด่านท่าเรือหายโศก รองรับขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว หลังรัฐบาลลาวอนุญาตเปิดด่านท้องถิ่นทุกแห่งได้แล้ว ส่วนโป๊ะแพชำรุด เทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมเร่งซ่อมให้ใช้การได้รับเปิดด่าน
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ท่าเรือหายโศก ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วย นายสมบัติ บินตะคุ ปลัดเทศบาลเมืองหนองคาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ออกตรวจสอบท่าเรือหายโศก เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดใช้ท่าเรือหายโศก ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญสำหรับการขนส่งสินค้าเข้าออกประเทศระหว่างไทยกับ สปป.ลาว โดยมีการปิดด่านไปในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 65 ทางศุลกากรหนองคายได้รับแจ้งจาก นายวอนคำ เจียงมะนีวง หัวหน้าห้องการ กระทรวงการต่างประเทศ ว่ารัฐบาล สปป.ลาว ได้ตกลงอนุญาตให้แขวงสามารถเปิดด่านท้องถิ่น และด่านประเพณี สำหรับการเข้าออกทั่วไปทุกด่านทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของแขวงนั้น แต่กำหนดมาตรการจัดการและตรวจสอบให้รัดกุม เพื่อไม่ให้ละเมิดโอกาสการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นและการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
หลังจากศุลกากรหนองคายได้รับแจ้งหนังสือดังกล่าวแล้ว ได้เตรียมความพร้อมส่วนของบุคลากร แต่ในส่วนของสถานที่เนื่องจากท่าเรือหายโศกอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองหนองคาย จึงต้องหารือร่วมกันว่าจะสามารถปรับปรุงซ่อมแซมส่วนใด หลังจากนั้นต้องรอการพิจารณากำหนดวันเวลาเปิดจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายอีกครั้ง จึงจะสามารถเปิดด่านท่าเรือหายโศกได้ตามปกติ
ด้านนายสมบัติ บินตะคุ ปลัดเทศบาลเมืองหนองคาย กล่าวว่า โป๊ะที่เห็นว่าจะจมน้ำนั้น จริงๆ แล้วเป็นแท่นที่มีฐานรองรับอยู่ เทศบาลได้รับการจัดสรรมาหลายปีแล้ว แท่นโป๊ะมีน้ำหนักมาก มีความจุ 80 ตัน ขณะนี้มีบางส่วนที่ฉีกขาดได้รับความเสียหาย เทศบาลเมืองหนองคายไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาหาผู้รับเหมามาดำเนินการซ่อมแซม แต่พอจะซ่อมก็มีน้ำโขงเพิ่มขึ้นเป็นอุปสรรค
หากจะเปิดด่านเร็วขึ้น เมื่อน้ำโขงลดจะสูบน้ำออกแล้วย้ายโป๊ะชำรุดออกไป เอาโป๊ะอื่นมาสำรองใช้ก่อน ส่วนอาคารทางนายกเทศมนตรีเมืองหนองคายจะปรับปรุงทั้งตัวอาคาร และระบบไฟฟ้าส่องสว่างด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มาประจำด่านท่าเรือหายโศกสามารถปฏิบัติงานได้ไม่กระทบการบริการประชาชนทั้งไทยและลาวได้มีประสิทธิภาพ