รัฐฉาน เมียนมา - NGO-ชาวรัฐฉานครวญหนัก..กลุ่มทุนเหมืองแร่รุมทึ้งดอยคำ-เมืองเลน กว่า 10 ราย หลังยึดอำนาจยิ่งเพิ่มชัด โคลนเลนไหลลงเต็มน้ำคำไม่พอ ยังทะลักเข้าบ้านเรือน-เรือกสวนไร่นา ดินเค็มสิ้นสภาพพื้นที่การเกษตรนับร้อยๆ ไร่
รายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากมีกลุ่มทุนทั้งในประเทศเมียนมาและต่างประเทศได้เข้าไปดำเนินโครงการเหมืองแร่ทองคำ มีการขุดภูเขาหลายแห่งพื้นที่บ้านนาไฮหลง เมืองเลน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ และสหภาพนักศึกษาไทใหญ่ ได้เผยแพร่รายงานเรื่องผลกระทบจากเหมืองแร่เมืองเลนเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าเหมืองแร่ทองคำดังกล่าวทำให้น้ำท่วมและดินโคลนถล่มจนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่เมืองเลน รวมทั้งยังกำลังขยายการสำรวจเพื่อขุดหาทองคำออกไปเรื่อยๆ อีกด้วย
รายงานระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณเหมืองทองคำเมืองเลนรุนแรงขึ้นทุกปีนับตั้งแต่มีการทำเหมืองและใช้เครื่องจักรบนเทือกเขาดอยคำ ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำคำตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีเหมืองทองแบบเปิดเต็มเทือกเขาและปล่อยน้ำจากเหมืองแร่ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ลำน้ำอุดตันและกัดเซาะริมฝั่ง ล่าสุดในปีนี้ ได้เกิดดินโคลนไหลเข้าหมู่บ้านนาไฮหลง เมืองเลน จนได้รับความเสียหาย 17 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีเสียหายหนัก 7 หลัง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2562 ทำให้มีชาวบ้านต้องอพยพย้ายถิ่นฐานออกจากหมู่บ้านไปแล้วจำนวน 52 หลังคาเรือน
นอกจากนี้ น้ำที่ไหลจากเหมืองยังท่วมสวนและไร่นาในหมู่บ้านไฮหลง บ้านเวียงหมากหน่อ โดยในปี 2558 เคยมีสวนและนาข้าวเสียหายอย่างสิ้นเชิง 420 ไร่เพราะไม่สามารถนำมาปลูกพืชได้อีกเนื่องจากดินเค็ม ซึ่งผลกระทบยังมีไปถึงบ่อน้ำ สัตว์เลี้ยง บ่อปลา สุขภาพของชาวบ้าน ฯลฯ
และเมื่อมีผู้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านเหมืองทองคำก็ถูกยิงจนเสียชีวิต ทำให้ไม่มีคนกล้าออกมาต่อต้าน และแม้ต่อมาจะมีภาคประชาสังคมในรัฐฉานเรียกร้องให้ยุติการทำเหมืองแร่จนกว่าจะมีการกระจายอำนาจการปกครองจากส่วนกลางแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากทั้งภาครัฐและเอกชนแต่อย่างใด
รายงานระบุอีกว่า ปัจจุบันมีเอกชนจำนวน 12 บริษัทที่ได้รับประทานบัตรหรือใบอนุญาตให้ขุดเหมืองแร่งทองคำที่เมืองเลนเป็นเวลา 11 ปี นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564 เป็นต้นไป แต่ละประทานบัตรจะครอบคลุมพื้นที่ 50 ไร่ และยังมีกลุ่มทุนจากประเทศออสเตรเลียอีก 1 บริษัท ที่ได้ประทานบัตรสำรวจหาทองคำเป็นเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2563 บนพื้นที่ 456 ตารางกิโลเมตร หรือ 281,825 ไร่
ทั้งนี้ เอกชนหลายรายยังมีความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เคยอยู่ในกองทัพเมียนมาหรือพันธมิตร หลายบริษัทเพิ่งได้รับประทานบัตรหลังจากที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อต้นปี 2564 โดยเป็นที่น่าสังเกตว่ากลางปี 2563 รัฐบาลเมียนมาเคยให้ประทานบัตรแก่เอกชนจำนวน 8 บริษัท ต่อมาในปี 2564 หลังมีการรัฐประหารก็ได้ให้ประทานบัตรเพิ่มอีก 5 บริษัทด้วย