สมุทรสงคราม - ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองวัดประดู่ พร้อมตรวจสอบสถานประกอบการล้งมะพร้าวที่ตั้งอยู่ริมคลอง พบว่าแม้จะมีบางรายยังลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลอง แต่คุณภาพน้ำเริ่มดีขึ้น
จากกรณีมีประชาชนร้องเรียนปัญหาน้ำเสียในคลองวัดประดู่ ต.วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นคลองที่ชาวบ้านใช้ในการสัญจรและใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากมานาน ทำให้ จ.สมุทรสงคราม ต้องยกปัญหาน้ำเสียคลองในวัดประดู่ขึ้นเป็นวาระสำคัญของจังหวัด โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและคณะทำงาน 6 ด้าน ประกอบด้วย ภาคราชการและภาคประชาชนร่วมกันดำเนินการป้องกันแก้ไขอย่างจริงจัง และมีการประชุมติดตามผลการดำเนินงานทุกเดือน เช่น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สมุทรสงคราม และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 เก็บตัวอย่างน้ำและตรวจวัดคุณภาพน้ำในคลองวัดประดู่เดือนละ 1 ครั้งๆละ 8 ชุด ได้แก่ วัดแก้วเจริญ วัดประดู่ วัดช่องลมวรรณาราม ประตูน้ำคลองวัดประดู่ ประตูน้ำคลองห้วยโรง จุดฝายทับเทียม คลองวันดาว และคลองปากท่อ โดยมีตัวชี้วัดที่จะดำเนินการตรวจวัด จำนวน 5 ตัวชี้วัด ได้แก่ ค่าออกซิเจนละลายน้ำ ปริมาณความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด แบคทีเรีย และแอมโมเนีย-ไนโตรเจน ซึ่งปัจจุบันพบว่าค่าดัชนีคุณภาพน้ำดีขึ้นกว่าปี 2564 ทุกจุดที่มีตรวจวัด
อย่างไรก็ตาม นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม พ.อ.จิรโรจน์ กองวารี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงเรือท้องแบนสำรวจคลองวัดประดู่ จนถึงบริเวณตลาดน้ำ 3 อำเภอ ระยะทางประมาณ 15 กิโมเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษ พบว่าคุณภาพน้ำเริ่มดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบผู้ประกอบการล้งมะพร้าวที่ตั้งอยู่ริมคลองวัดประดู่ พบว่า ยังมีสถานประกอบการ หรือล้งมะพร้าวบางแห่งมีการต่อท่อน้ำทิ้งลงคลองวัดประดู่ แต่อ้างว่าช่วงนี้หยุดดำเนินการเนื่องจากไม่มีการสั่งซื้อจากลูกค้าแล้ว จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งให้อุดท่อน้ำทิ้งดังกล่าว หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนอีกจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม กล่าวด้วยว่า สมุทรสงครามถือว่าเป็นจังหวัดปลายน้ำ ทำให้มีปัญหาน้ำเน่าเสียมานานหลายสิบปี ซึ่งหลายฝ่ายพยายามเร่งแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ปีนี้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองวัดประดู่เริ่มเบาบางลง วันนี้ตนและคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาน้ำเสียในคลองวัดประดู่ จึงได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบคุณภาพน้ำตามจุดต่างๆ ว่ายังมีการปล่อยน้ำเสียหรือไม่ เช่น บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมคลอง และล้งมะพร้าวซึ่งพบว่า มีบางรายที่ยังมีร่องรอยการลักลอบปล่อยน้ำทิ้งแต่อ้างว่าหยุดดำเนินการแล้ว จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและคาดโทษไว้ ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำข้อมูลทั้งหมดไปเข้าที่ประชุมทบทวนแผนว่าจะปรับเปลี่ยนหรือดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างไรเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ไม่เดือดร้อนกับปัญหาน้ำเสียอีกต่อไป